xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอลุยตรวจข้อมูลกรณีองค์การค้า สกสค.ร้องเรียน บ.เอกชนดิสเครดิต

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ดีเอสไอ ลุยหาข้อมูลเพิ่มเติม หลังองค์การค้า สกสค.ร้องเรียนว่าถูก บ.เอกชนดิสเครดิตส่งหนังสือให้ไม่ทันหวังชิงยอดสั่งซื้อ

เมื่อวันที่ 19 มี.ค.นายกิตติก้อง คณาจันทร์ ผอ.ศูนย์ปราบปรามคดีฟอกเงินและยาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าพบนายสมมาตร์ มีศิลป์ ผู้อำนวยการองค์การค้าของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากที่ร้องเรียนว่ามีสำนักพิมพ์เอกชนหลายแห่งทำการกีดกันการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ในการจำหน่ายหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้เพื่อแจกนักเรียน ตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ โดยการไปปล่อยข่าวลือว่าทางองค์การค้าของ สกสค.ไม่สามารถผลิตและจัดส่งหนังสือได้ตามเวลาที่กำหนด เพื่อที่โรงเรียนจะได้สั่งซื้อหนังสือจากสำนักพิมพ์เอกชน

นายสมมาตร์ กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวส่งผลให้องค์การค้า สกสค.มียอดสั่งซื้อลดลง ซึ่งความจริงแล้วทางองค์การค้าของ สกสค.มีกำลังในการผลิตและส่งหนังสือได้ตามกำหนด ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตโดยการเช่าเครื่องจักรในการผลิตหนังสือเพิ่มอีกจำนวน 10 เครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องจักรในการผลิตหนังสือที่มีประสิทธิภาพสูงและดีที่สุดในประเทศไทย โดยสามารถผลิตหนังสือได้เฉลี่ย 460,000 ต่อวัน

สำหรับแผนการผลิตหนังสือเรียนในปี พ.ศ.2557 บันทึกไว้เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ผลิตเสร็จพร้อมจำหน่ายแล้ว 26,404,575 เล่ม และอยู่ในระหว่างการผลิตอีก12,544,340 เล่ม จากจำนวนที่ตั้งไว้เพื่อเตรียมจำหน่าย 38,948,915 เล่ม ซึ่งในวันที่31 มี.ค.นี้ ก็จะสามารถผลิตได้ครบตามที่ตั้งเป้าไว้

ผอ.องค์การค้า สกสค.กล่าวอีกว่า การที่โรงเรียนไม่สั่งซื้อหนังสือขององค์การค้าของ สกสค.นั้น เป็นเพราะมีผลประโยชน์ซ้อนเร่น เนื่องจากสำนักพิมพ์เอกชนจะยื่นข้อเสนอส่วนลดให้กับทางโรงเรียนมากกว่าที่องค์การค้าของ สกสค.กำหนด แต่กลับตั้งราคาหน้าปกสูงกว่าทางกระทรวงศึกษาฯกำหนด ซึ่งจะได้รับเปอร์เซ็นต์มากกว่าสั่งซื้อจากองค์การค้าของ สกสค.แต่นักเรียนจะได้หนังสือไม่ครบทุกคน เนื่องจากงบประมาณที่ตั้งไว้ไม่สามารถซื้อหนังสือได้ครบตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการเพราะราคาแพงกว่าที่กระทรวงศึกษากำหนด โดยบางโรงเรียนได้ให้นักเรียนนำหนังสือเรียนเก่าของรุ่นพี่มาเรียนซ้ำ เพื่อตัดปัญหาการได้หนังสือเรียนไม่ครบ

ด้าน นายกิตติก้อง กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าได้รวบรวมข้อมูลเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป แต่ยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษแต่อย่างใด เพราะต้องรวบรวมพยาน และหลักฐานเพิ่ม เพื่อให้แน่ชัด ว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดจริง เพราะเป็นความผิดฐานกีดกันการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม

กำลังโหลดความคิดเห็น