ผบ.ตร.เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนาตำรวจภูธรภาค 1 ครบรอบปีที่ 38
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (11 มี.ค.) ที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนาตำรวจภูธรภาค 1 ครบรอบปีที่ 38 พร้อมด้วย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.และข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1 รวมถึงอดีตผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 1 เดินทางมาร่วมประกอบพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตำรวจภูธรภาค 1 และพิธีวางพวงมาลาหน้าอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน ณ ลานเกียรติยศตำรวจกล้า ภ.1 เพื่อเป็นการแสดงความเคารพและไว้อาลัยแก่ราชการตำรวจผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ และพิธีสงฆ์
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 1 ได้มีนำนโยบายมาปรับใช้ในการทำงานได้เป็นอย่างดี และยังมีการฝึกฝนกำลังพลให้มีความพร้อมอยู่เสมอ ทั้งนี้ที่ผ่านมาตำรวจภูธรภาค 1 อยู่ใกล้กับเขตพื้นที่การชุมนุม จึงได้มีการจัดกำลังพลเพื่อเอาไปช่วยเหลือในการดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้แก่ผู้ชุมนุม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับกรณีสายการบินมาเลเซียสูญหาย จากการตรวจสอบพบว่ามีการใช้พาสปอร์ตปลอมในการจองตั๋วเครื่องบิน พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า พาสปอร์ตดังกล่าวเป็นของชาวออสเตรีย และชาวอิตาลี ซึ่งคนที่สวมรอยใช้พาสปอร์ตนั้นไม่ได้ใช้ในการเขามายังประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนในคดีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หมดลง และเปลี่ยนเป็น พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะมีแนวทางในการดูแลความสงบเรียบร้อยของการชุมนุมต่อไปอย่างไร พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า หากสถานการณ์ทางการชุมเบาลงก็จะมีการใช้มาตรการในการดูแลความสงบเรียบร้อยที่เบาลงเช่นกัน ซึ่งไม่น่ากังวลแต่อย่างใด ส่วนเหตุการณ์ที่มีระเบิดเกิดขึ้นรายวัน รวมถึงเหตุระเบิดที่บริเวณเวทีของกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ที่สวนลุมพินี เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ (11 มี.ค.) ทางเราได้มีการประสานขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทหารจุดต่างๆ และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าไปดูแลยังจุดดังกล่าวแล้ว