ปทุมธานี - พี่ชายคนโตแถลงสารภาพหมดเปลือก นาทีฆ่า “พ่อ-แม่-น้อง” วางแผนวางยานอนหลับ สาเหตุแค้นแม่ดุด่า หลังถูกตำรวจเชิญตัวมาสอบสวนอย่างหนัก แล้วนำตัวไปตรวจค้นบ้านซ้ำอีกจนยอมรับสารภาพในที่สุด
จากกรณีพบศพ นายภานุวัตร และ นางเยาวลักษณ์ ศรพรหม และนายโฮม อายุ16ปีลูกชายคนเล็ก เป็นครอบครัวพ่อแม่ลูก ถูกยิงเสียชีวิตรวม 3 ศพภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านพักภายในหมู่บ้านเมลาวิลล์ ถนนเสมา-ฟ้าคราม ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานีเหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 มีค.ที่ผ่านมานั้น ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าจากคำให้การของนายวัฒน์ อายุ18ปีลูกชายคนโตว่า อาจเป็นการก่อเหตุของนายโอมลูกชายคนเล็ก ที่เกิดความเครียดจากการถูกพ่อแม่ดุด่าเป็นประจำ เนื่องจากติดเล่นเกมจนทำให้ผลการเรียนตกต่ำ จึงใช้อาวุธปืนยิงพ่อแม่จนเสียชีวิต และยิงตัวเองตายตาม
เมื่อเวลา 23.00.น.วานนี้ (10 มี.ค.)ทาง พ.ต.ต.ประยูร ประกอบจันทร์ สว.สส. สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้นำตัวนายวัฒน์ อายุ 18 ปี ลูกชายคนโตของผู้ตาย มาสอบปากคำอย่างละเอียดตลอดทั้งวันทั้งคืนแต่ยังคงให้การแบบเดิมว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและยังให้การในทำนองว่าน้องชายมีความกดดันจนอาจจะก่อเหตุขึ้นมา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงพาไปค้นห้องพักคอนโดที่อยู่ใน กทม.และค้นบ้านหาหลักฐานกระทั่งเวลา 24.00 น.หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบเค้นและนำพยานหลักฐานต่างๆทั้งกล้องวงจรปิดวิธีกระสุนและรูปการวางอาวุธปืนที่ศพน้องชายมาให้นายวัฒน์ดูอย่างซ้ำไปซ้ำมาทำให้นายวัฒน์จำนนต่อหลักฐานจึงเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนลั่นไกลงมือฆ่าพ่อแม่และน้องชายส่วนด้วยมือของตัวเอง สาเหตุมาจากเครียดที่ถูกครอบครัวกดดันเรื่องการเรียน ประกอบกับพ่อและแม่ไม่ยอมซื้อรถยนต์ให้ตามสัญญาหลังจากตนสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้
ซึ่งนายวัฒน์ให้การอย่างละเอียดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาทางแม่ของตนได้ดุด่าตนเองคนเดียวและรักน้องชายมากกว่าซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็พยายามตั้งใจเรียนและเชื่อฟังคำสั่งสอนพยายามทำตามที่พ่อแม่สั่งและกดดันมาตลอดกระทั่งวันที่8มีนาคม ตนเองจึงคิดมากจึงขึ้นไปปิดกล้องวงจรปิดเพื่อไม่ให้บันทึกเหตุการณ์ต่างๆในบ้านโดยที่พ่อกับแม่ไม่รู้ซึ่งตลอดทั้งวันนั้นตนเองก็คงยังโดนแม่ดุด่าอยู่ส่วนพ่อก็เคยส่งเสริมซ้ำเติมเข้าข้างแม่กับน้องจนตัวเองเป็นปมด้อยเข้าไปนอนคิดต่างๆนาๆพอตกหัวค่ำพ่อได้ขึ้นห้องมาชวนตนเองลงไปกินหมูกระทะกันที่หน้าบ้านพร้อมหน้าพร้อมตาตนจึงนั่งดื่มเบียร์กับพ่อจนกระทั่งเวลาประมาณสี่ทุ่มพ่อแม่และน้องชายได้ขึ้นห้องไปพร้อมกับภายในห้องนอนที่เกิดเหตุตนเองจึงนั่งกินอยู่คนเดียวและดื่มเบียร์จนเมามากและคิดสั้นเข้าไปหยิบอาวุธปืนของพ่อที่ได้วางไว้ในห้องนอนของน้องชายที่อยู่อีกห้องหนึ่งและเปิดประตูห้องนอนพ่อแม่เข้าไปก่อเหตุใช้ปืนจ่อยิงพ่อและแม่คนละหนึ่งนัดจากนั้นได้มายิงน้องชายที่นอนอยู่บนพื้นล่างหน้าตู้เสื้อผ้าและจักฉากนำปืนกระบอกดังกล่าววางไว้ในมือของน้องชายเพื่อที่จะโยนความผิดให้น้อง
นายวัฒน์ ให้การรับสารภาพอีกว่าส่วนเรื่องทรัพย์สินต่างๆตนเองไม่ได้เกิดความโลภเพราะเชื่อว่าพ่อกับแม่ต้องแบ่งทรัพย์สินต่างๆให้ตนกับน้องชายอยู่แล้วแต่สาเหตุที่ตนคิดสั้นตัดสินใจเป็นเพราะถูกกดดันเป็นส่วนใหญ่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดเวลาการสอบปากคำนายวัฒน์ได้เกิดความเครียดอย่างมากและพยามยามขอพักการสอบสวนตลอดทั้งคืนซึ่งในช่วงสายวันนี้ทางตำรวจจะมีการแถลงข่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง
ด้านนางสุนีย์ (สงวนนามสกุล) เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ตนเองนั้นไม่เชื่อว่าลูกชายคนเล็กจะเป็นผู้ลงมือในครั้งนี้ เพราะปกติแล้วเด็กคนนี้เรียบร้อย มีความรับผิดชอบสูงมาก รวมทั้งการเรียนก็ดีมาตลอดได้เกรด 3 กว่าๆ ตลอดมา เรียนดีกว่าพี่ชายเขาอีก ซึ่งเรื่องการเรียนนั้นไม่ใช่สาเหตุย่างแน่นอน ส่วนที่บอกว่าเขาติดเกมและถูกยึดโทรศัพท์นั้นก็ไม่เป็นความจริง ตนเองรู้จักสนิทสนมกับครอบครัวนี้มานาน รู้ว่าก่อนจะสอบทุกครั้งจะมีการเก็บโทรศัพท์อยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่ว่าติดเกมก็เป็นเกมในไลน์ ไม่ใช่เกมที่รุนแรงแต่อย่างใด อีกทั้งลูกสาวของตนก็ยังบอกว่าคืนวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 23.30 น. ลูกชายคนเล็กเขายังโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กของเขา และกล่าวคำขอบคุณพ่อกับแม่ที่ซื้อของขวัญให้เขา จึงไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นผู้ก่อเหตุ
ล่าสุดวันนี้ นายวัฒน์ พี่ชายคนโตซึ่งถูกตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ นำตัวมาแถลงข่าว หลังรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงพ่อ แม่ และน้องชายแท้ๆ ด้วยตัวเอง จนเสียชีวิตภายในบ้านพักภายในหมู่บ้านเมลาลิลล์ ถนนเสมาฟ้าคราม ม.5 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา
โดยนายวัฒน์ให้การว่า วันก่อนเกิดเหตุได้วางแผนว่าจะวางยานอนหลับพ่อและแม่ แต่เป็นยานอนหลับชนิดละลายน้ำ จึงไม่เป็นผล จึงได้ไปซื้อยานอนหลับชนิดน้ำ แต่ขวดยากลับตกแตกอีก ต่อมาในวันเกิดเหตุ ตัวเองถูกแม่ดุด่าจึงรู้สึกโกรธแค้น จนเวลาประมาณ 03.00 น.ได้ขึ้นไปในชั้น 2 ของบ้านและพบกระเป๋าบรรจุปืนของพ่อวางอยู่ ตั้งใจว่าจะนำปืนไปยิงแม่เพียงคนเดียว แต่เกรงว่าพ่อและน้องชายจะตื่นมาพบจึงตัดสินใจยิงทิ้งทั้งหมด แต่หลังก่อเหตุรู้สึกกลัวความผิด จึงนำปืนไปวางที่มือน้องชายเพื่อโยนความผิดให้น้องชายว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ก่อนที่ตัวเองจะขับรถออกจากบ้านไป และทำทีว่าติดต่อพ่อแม่ไม่ได้ และขอให้ป้ามาช่วยดูที่บ้าน หลังจากนั้นได้ขับรถยนต์ไปรับแฟนสาวเพื่อให้มีพยานยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์ และอ้างเหตุผลว่าน้องชายไม่พอใจที่ถูกพ่อแม่ตำหนิเรื่องเล่นเกมจนผลการเรียนตกต่ำ
หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนพบพิรุธหลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วพบว่า นายวัฒน์เข้าไปภายในห้องที่เกิดเหตุ ก่อนที่กล้องวงจรปิดจะถูกปิดลงเพียง 4-5 วินาที ประกอบกับผลชันสูตรพลิกศพพบว่าทิศทางกระสุนปืนเข้าซ้ายออกขวาทั้ง 3 ศพ แต่อาวุธปืนกลับอยู่ในมือข้างขวาของน้องชาย