“ถาวร เสนเนียม” แกนนำ กปปส. ส่งทนายยื่นศาลแพ่ง ร้องขอให้มีคำสั่งขัง “เฉลิม อยู่บำรุง” ฝ่าฝืนคำพิพากษาศาลแพ่ง กรณีอ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เนรเทศ “สาธิต เซกัล” ศาลนัดไต่สวน 25 มี.ค.นี้
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายวันธงชัย ชำนาญกิจ ทนายความผู้รับอำนาจนายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. ได้เดินทางมายื่นคำร้องข้อให้ศาลออกคำสั่งจับกุมหรือคุมขัง ร.ต.อ. เฉลิมอยู่บำรุง รักษาการ รมว.แรงงานในฐานะ ผอ.ศรส. จำเลยที่ 2 ฐานที่ฝ่าฝืนคำพิพากษาของศาลแพ่ง ในคดีที่นายถาวรเป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับพวกรวม 3 คน เป็นจำเลยเรื่องขอให้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ซึ่งต่อมาศาลแพ่งพิพากษาห้ามมิให้จำเลยทั้งสามนำประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงมาใช้บังคับกับโจทก์ ประชาชน และผู้ชุมนุม กปปส. มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. 2557 ที่ผ่านมา
โดยคำร้องระบุว่า การที่ ศรส.ลงนามในคำสั่งเนรเทศนายสาธิต เซกัล ประธานกลุ่มประชาคมสีลมและนายกสมาคมธุรกิจอินเดีย-ไทย โดยอาศัยอำนาจตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงและ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548 มาตรา 11 ข้อที่ 8 ที่ระบุว่าให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งการให้คนต่างด้าวออกไปนอกราชอาณาจักร ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเป็นผู้สนับสนุนการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน โดย ศรส.ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและดีเอสไอได้รวบรวมพยานหลักฐานว่านายสาธิต เซกัล ได้เข้าร่วมเป็นแกนนำหลักของ กปปส.ขึ้นเวทีอภิปราย ยุยงให้ประชาชนละเมิดกฎหมายพร้อมนำมวลชนไปบุกรุกสถานที่ราชการ รวมทั้งปิดล้อมกรมการบินพลเรือน จึงเป็นบุคคลที่กระทำการอันกระทบต่อความมั่นคง โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2557 คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองที่มีนายประภาศ บุญยินดี รองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน ได้พิจารณากรณีของนายสาธิต เซกัล พิจารณาแล้วเห็นว่าคำปราศรัยของนายสาธิตยังไม่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ต่อมาวันที่ 21 ก.พ. 2557 คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองได้พิจารณากรณีเนรเทศนายสาธิต เซกัล ตามคำสั่ง ศรส.อีกครั้ง โดยมีการลงมติลับเป็นครั้งแรก ให้เพิกถอนถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรอันเป็นผลให้เนรเทศนายสาธิต เซกัล กลับไปประเทศอินเดียด้วยคะแนน 5 ต่อ 2 และงดออกเสียง 2 เสียง
ล่าสุด วันที่ 5 มี.ค. 2557 มีรายงานว่าสถานทูตอินเดียได้แจ้งไปยังสาธิตว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ได้ลงนามในหนังสือถอนถิ่นที่อยู่ให้ ศรส.แล้ว และจำเลยที่ 2 ในฐานะ ผอ.ศรส.ได้ลงนามในหนังสือดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะมีผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายสาธิตออกนอกประเทศได้ทันที จึงเห็นว่าการกระทำของ ร.ต.อ.เฉลิม ในฐานะ ผอ. ศรส.นั้น ฝ่าฝืนคำพิพากษาของศาลแพ่งที่ห้ามใช้ประกาศและข้อกำหนดรวม 9 ข้อ ซึ่งคำพิพากษาของศาลแพ่งครอบคลุมไปถึงโจทก์ จำเลยและผู้ร่วมชุมนุมที่รวมถึงนายสาธิต เซกัล ด้วย อีกทั้งการชุมนุมของนายสาธิตเป็นการชุมนุมตามสิทธิเสรีภาพที่ไม่ได้มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยรองรับไว้ว่าเป็นการชุมนุมโดยสงบตามสิทธิรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ศาลมีคำสั่งจับกุม หรือคุมขัง ร.ต.อ.เฉลิม ในฐานะ ผอ.ศรส.ไว้จนกว่ายกเลิกคำสั่งเนรเทศนายสาธิต เซกัล
ทั้งนี้ ศาลรับคำร้องโจทก์ไว้พร้อมนัดไต่สวน วันที่ 25 มี.ค. เวลา 09.00 น. พร้อมส่งสำเนาให้ฝ่ายจำเลยรับทราบ หากคัดค้านประการใดให้ยื่นคำร้องเข้ามาก่อนหรือภายในวันนัด มิฉะนั้นถือว่าไม่ติดใจคัดค้าน