รอง ผบช.น.ข่าวจับกุมสอง รปภ.โหดก่อเหตุใช้มีดและปังตอรุมแทง-ฟันเด็กใต้หน้ารามฯ เสียชีวิตอย่างอุกอาจแล้วหลบหนีไปกบดาน สารภาพขัดแย้งกับผู้ตายเรื่องยาเสพติด
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (6 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สาโรช ซุ่นทรัพย์ รอง ผบก.น.4 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสุรัตน์ หรือเฟซ กริดกระโทก อายุ 28 ปี ชาว จ.มุกดาหาร อาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 345/2557 ลงวันที่ 28 ก.พ. 2557 และนายเสกสรร หรือหนุ่ม อุทาวงศ์ อายุ 23 ปี ชาว จ.มุกดาหาร อาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 346/2557 ลงวันที่ 28 ก.พ. 2557 พร้อมของกลาง มีดปังตอ 1 เล่ม จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีขาว ทะเบียน กบบ 698 มุกดาหาร จำนวน 1 คัน และชุดที่ผู้ต้องหาทั้งสองสวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ กลางซอยรามคำแหง 145 แยก 2 ถนนรวมคำแหง แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ฐิติราชกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.ของวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุนายสมโภชน์ สนสมบัติ อายุ31 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ถูกคนร้ายจำนวน 2 คนรุมทำร้ายโดยใช้อาวุธมีดไม่ทราบลักษณะฟันที่บริเวณศีรษะและแทงที่บริเวณด้านหลังหลายแห่งจนถึงแก่ความตาย ที่บริเวณกลางซอยรามคำแหง 41/1 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
พล.ต.ต.ฐิติราชกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุ ผู้ตายได้นัดหมายให้นายสุรัตน์ และนายเสกสรรให้มาพบเพื่อตกลงเรื่องซื้อขายยาเสพติด ซึ่งผู้ตายได้รับเงินจำนวน 4,000 บาท และยาบ้าจำนวน 20 เม็ด มาจากนายสุรัตน์ และนายเสกสรร จากนั้นได้มีการพูดจาตกลงกันแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง โดยนายสุรัตน์และนายเสกสรรได้ใช้อาวุธมีดปลายแหลม และมีดปังตอที่เตรียมมารุมกระหน่ำฟันและแทงตามร่างกาย ศีรษะของผู้ตายจนเสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปต่างจังหวัด ก่อนกลับมาที่ห้องเช่าอีกครั้งจนถูกจับกุมตัวได้ในครั้งนี้ ทั้งนี้ นายเสกสรรเคยถูกจับกุมในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นที่ สภ.คำชะอี จ.มุกดาหาร มาแล้วเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
