ในปัจจุบันโลกมีวิวัฒนาการก้าวไกลไปมาก ทุกสิ่งจึงต้องปรับตัวให้ทันโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว มิจฉาชีพเองก็เช่นกัน….. เล่ห์กลของมิจฉาชีพนั้นเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ที่หน้ากลัวคือมyนเปลี่ยนไปเร็วจนแทบตามไม่ทัน อย่างล่าสุดประชาชนต่างต้องตกอยู่ในความกังวัล เพราะเมืิ่อคุณเดินไปกดเงินจากตู้บริการเงินสด เงินสะสมในบัญชีของคุณก็อาจจะปลิวหายไปอย่างลึกลับโดยที่คุณไม่ต้องเผชิญหน้ากับโจรตัวเป็นๆเลย แค่เจอเข้ากับเจ้าเครื่องสกิมเมอร์ โจรจำแลง เครื่องมือสุดน่ากลัวของเหล่ามิจฉาชีพในปัจจุบันเท่านั้น
เราได้ยินชื่อเจ้าเครื่องสกิมเมอร์ครั้งแรกเมื่อช่วงต้นเดือน พฤศจิกายนของ ปี56 ประชาชนเกือบร้อยรายเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าตำรวจด้วยความตกใจที่เงินอัตราทานหายไปจากบัญชี ทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพากันสืบสวนหาต้นตอกันจ้าละหวั่น ก่อนจะพบว่าตัวการคือเจ้าเครืิ่งสกิมเมอร์เครื่องเล็กๆ ที่ถูกลักลอบติดตั้งอยู่ที่เครื่องบริการเงินสดของธนาคารแห่งหนึ่ง นอกจากนี้มันยังระบาดไปยังจังหวัดสงขลา และอุบลราชธานีอีกด้วย เนื่องจากมีผู้เสียหายในจังหวัดทยอยพากันเข้าแจ้งความหลังจากเงินในบัญชีหายไปเช่นกัน เรื่องดังกล่าวกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ไปทั่วประเทศ จนเกินคำถามที่ว่า แล้วเจ้าเครื่องสกิมเมอร์มันคืออะไร? ใครเป็นผู้นำมันเข้ามา?
พ.ต.ท.วิชัย ณรงค์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ ที่เพิ่งโชว์ผลงานร่วมกับทีมฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อจับคนร้ายแก๊งสกิมเมอร์ไปเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557ที่ผ่านมาอธิบายให้เราฟังถึงพฤติการณ์ของคนร้ายกลุ่มนี้ว่า มันจะเริ่มจากการแสวงหาข้อมูลของบัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิตที่จะทำการคัดลอก การได้มาซึ่งข้อมูลนั้นจะใช้เครื่องมืออ่านและคัดลอกข้อมูล แถบแม่เหล็ก หรือที่เรียกว่าสกิมเมอร์ (Skimmer) ส่วนข้อมูลที่ได้จากการอ่าน ก็จะมีตั้งแต่ เลขหน้าบัตร ชื่อผู้ครอบครอง ประเภทของบัตร วันหมดอายุ และวิธีการคัดลอกนั้นอาจจะใช้ สกิมเมอร์ ติดตามตู้ ATM หรือวิธีอื่นๆ เมื่อได้ข้อมูลดังกล่าวมาแล้ว จะนำข้อมูลที่ได้นั้นไปบันทึกลงในบัตรเปล่า ไม่ว่าจะเป็น บัตรทีมีลักษณะเป็น บัตรเครดิตต่างชาติ บัตรATM บัตรขาว หรือแม้กระทั้ง บัตรเข้าออกโรงแรม บัตรที่มีแถมแม่เหล็กสามารถนำมาเขียนข้อมูลได้ทั้งหมด แล้วนำบัตรที่เตรียมไว้บันทึกข้อมูล ผ่าน คอมพิวเตอร์ และเครื่องบันทึกข้อมูลแถบแม่เหล็ก เมื่อได้บัตรที่ดำเนินการคัดลอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วก็จะสามารถใช้บัตรดังกล่าว ได้เสมือนบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตของจริง
พ.ต.ท.วิชัย กล่าวต่อว่าการได้มาซึ่งรหัส 4 ตัวหรือ 6 ตัวสำหรับบัตรรุ่นใหม่ เพื่อใช้ในการกดทำรายการผ่านตู้ ATM อาจจะมีการ ติดกล้องซ่อนที่บริเวณตู้ ATM เครื่องที่ได้ทำการติดตั้งตัวอ่านบัตรหรือสกิมเมอร์ไว้ หรืออาจจะมีการวางแผงวงจร ที่แป้นปุ่มกดตัวเลขของตู้ ATM แล้วนำเอาข้อมูลของบัตรที่คัดลอก มาเทียบกับข้อมูลรหัสเพื่อใช้ในการเบิกเงินผ่านตู้ ATM
ร.ต.อ.ภานุภัทร กิตติพันธ์ สว.สส.สน.ทองหล่อหนึ่งในทีมสืบสวนเล่าถึงขบวนการการทำงานของคนร้ายกลุ่มนี้ต่อว่า เมื่อได้เงินสดออกมาคนร้ายกลุ่มนี้จะนำเงินเข้าบัญชีของตนเองที่เปิดไว้กับ ธนาคารในประเทศและบัญชีบุคคลอื่นที่มีการรับจ้างเปิดบัญชี เพื่อโอนเงินออกนอกประเทศหรือจะนำไปแลกเป็นเงินตรา ต่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในคดีที่ล่าสุดที่ทางสน.ทองหล่อจับกุมได้นี้คนร้ายได้ ข้อมูลบัตรมาจากต่างประเทศ ซึ่งจะมีคนร้ายอีกกลุ่มที่ทำการ คัดลอกข้อมูลบัตรเครดิตในต่างประเทศ แล้วมีการส่งข้อมูล มาเพื่อให้คนร้ายที่อยู่ในประเทศไทยทำการคัดลอกลงบัตรเปล่าแล้วนำออกใช้ คนร้ายกลุ่มนี้ จากการตรวจสอบประวัติแล้ว พบว่า คนแรก เดินทางเข้ามาในประเทศไทยประมาณ 1 เดือน ต่อมาได้มาพบกับคนร้ายคนที่ 2 ซึ่งเดินทางเข้ามาหลังจากที่คนแรกเข้ามาแล้ว 2 สัปดาห์แล้วได้มีการเดินทาง ไปในหลายจังหวัด ตามแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วคนร้ายที่มีเครื่องมือสกิมเมอร์ในการก่อเหตุมักจะเป็นแก็งคนร้ายชาวรัสเซียเสียส่วนใหญ่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนหาต้นตอของแก็งนี้อย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินของประชาชนที่จะเกิดขึ้นอีก
ถือได้ว่าบรรดาแก๊งโจรสกิมเมอร์เป็นคนร้ายยุคไฮเทคอย่างแท้จริง น่าเสียดายนำความรู้ด้านเทคโนโลยีที่มีติดตัวมาใช้ในการก่อเหตุอาชญากรรมข้ามประเทศเช่นนี้ แต่ไม่ว่าเก่งกาจมาจากไหนก็หนีไม่พ้นสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่เฝ้าจับจ้องอยู่ไปได้ การจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นเคสสำคัญที่อาจจะทำให้สืบสาวหาต้นตอแก๊งโจรสมิกเมอร์ได้อีกหลายแก็งในไทย และต่อไปเมื่อถึงคราวเจ้าสกิมเมอร์อัตราธานหายไป วิธีโจรกรรมใหม่ๆคงเกิดขึ้นท้าทายความสามารถของตำรวจอีกตามวิวัฒนาการโลกที่ไม่หยุดยั้ง
ขึ้นชื่อว่า "โจร" เทคโนโลยีก้าวล้ำแค่ไหน "มิจฉาชีพ"ก็ตามทันด้วยเช่นกัน.
ธีรดา ศิริมงคล ทีมข่าวอาชญากรรม / รายงาน