รองโฆษก สตช.แถลงสสรุปสถานการณ์ความรุนแรงรายวัน ยัสนคนร้ายลอบยิงระเบิด M79 จากทางด่วนโทลล์เวย์ขาเข้าในลักษณะนั่งยิง เผยอาการตำรวจเตะระเบิดหวั่นติดเชื้อ ผ่าตัดไปแล้ว 2 ครั้ง
วันนี้ (21 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษก ตร. พร้อม พล.ต.ต.สุรพล เกษประยูร นายแพทย์ (สบ 6) และพ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษก รพ.ตร. ร่วมกันแถลงสถานการณ์การชุมนุม และอาการของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาอยู่ที่ รพ.ตร.
พล.ต.ต.อนุชากล่าวว่า สถานการณ์การชุมนุม 24 ชม.ที่ผ่านมา การชุมนุมโดยทั่วไปยังอยู่ที่บริเวณ 5 เวทีหลัก และยังคงมีประชาชนพักค้างแรมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย, ทำเนียบรัฐบาล และแยกผ่านฟ้าลีลาศ ส่วนสถานที่ราชการและสาธารณูปโภคที่ถูกปิดมีทำเนียบรัฐบาล, กรมการขนส่งทางบก, กระทรวงมหาดไทย และศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อีกทั้งมีเวทีคู่ขนานของ กปปส.ต่างจังหวัด ประกอบไปด้วย ภาคเหนือ 2 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น และภาคใต้ 8 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 13 จังหวัดทั่วประเทศ ในส่วนผลการตั้งด่านความมั่นคงเมื่อคืนที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ต้องหา 12 ราย ของกลางที่จับกุมประกอบด้วยอาวุธปืน 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด อาวุธมีดและขวาน 8 เล่ม ยาเสพติดประเภทกัญชา และบุคคลต่างด้าว 2 คน ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ดำเนินการจับกุมและส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีแล้ว
พล.ต.ต.อนุชากล่าวอีกว่า มีเหตุแทรกซ้อนเกิดขึ้น 2 เหตุการณ์ เมื่อเวลา 22.20 น. สน.ทุ่งสองห้องได้รับแจ้งเหตุระเบิดที่ปั้มบางจาก ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อถึงที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพนักงานสอบสวน, เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน, เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด พบว่าบริเวณหลังคาร้านคาร์แคร์ที่อยู่บริเวณปั๊มน้ำมันได้รับความเสียหาย ซึ่งมีสะเก็ดระเบิดโดนรถยนต์และกระจกร้านคาร์แคร์ จากการตรวจสอบเชื่อว่าคนร้ายน่าจะใช้อาวุธปืน M79 ยิงมาจากทางด่วนโทลล์เวย์ขาเข้าในลักษณะคนที่ยิงนั่งอยู่ในรถ จึงมีการรวบรวมพยานหลักฐานและมีการสืบสวนสอบสวนต่อไป ต่อมาเวลาประมาณ 01.30 น. เหตุระเบิดหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนเรียบคลองสอง บางชัน คลองสามวา เจ้าหน้าที่ตำรวจคันนายาวได้รับแจ้งเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พบว่าตู้เอทีเอ็มดังกล่าวได้รับความเสียหาย จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบชิ้นส่วนของวัตถุระเบิดและกระเดืองนิรภัยเป็นแบบชนิดสังหารอาร์พีจี ผลิตในประเทศรัสเซีย รัศมีการทำลาย 5 เมตร ก็ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการติดตามคนร้ายต่อไป
ด้านนายแพทย์ พล.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า ทาง รพ.ตร.ขอชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะเมื่อวานที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารักษาตัวที่ รพ.ตร.จำนวน 25 ราย บาดเจ็บ 12 ราย บาดเจ็บสาหัส 12 ราย เสียชีวิต 1 นาย ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อาการสาหัส คือ ส.ต.ต.ศราวุธ ชัยปัญญา ขณะนี้ได้รับการผ่าตัดและพักรักษาตัวในห้องไอซียู รายที่ 2 กรณีเตะระเบิด บริเวณผ่านฟ้าลีลาศ คือ ด.ต.ธีรเดช เล็กภู่ โดยแพทย์ได้ทำการผ่าตัดครั้งที่ 2 อาจจะมีภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ผ่าตัดไปแล้ว จำนวน 10 ราย ส่วนอีก 11 รายสามารถกลับบ้านได้ ต้องขอขอบคุณทุกโรงพยาบาล เช่น รพ.พระมงกุฎเกล้า, รพ.ราชวิถี, รพ.สงฆ์, รพ.กลาง, รพ.หัวเฉียว และรพ.วชิรพยาบาล ที่รับดูแลผู้ป่วยจากเกตุการณ์ปะทะ และขอขอบคุณมูลนิธิทุกแห่ง ที่เสี่ยงชีวิตเข้าช่วยตำรวจในที่เกิดเหตุส่งรพ.ต่างๆ
พ.ต.อ.หญิง ศิริกุลกล่าวว่า รพ.ตร.เปิดให้บริการตามปกติ 24 ชม. โดยใช้เส้นทางการเข้าออกด้านอังรีดูนังต์ ข้างสถาบันนิติเวชวิทยา ถ้าเป็นกรณีที่ผู้ป่วยสามารถมาเดินมาเอง จะมีประตูทางด้านราชดำริเปิดเวลา 06.00-17.00 น. และสามารถติดต่อสอบถามเส้นทางได้ที่ 1691 ส่วนกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถเดินมาได้ โทร. 0-2207-6354 จะมีรถพยาบาลไปบริการรับผู้ป่วย และกรณีฉุกเฉินสามารถ โทร. 0-2207-6154-5
ส่วนการรับบริจาคโลหิต ประชาชนที่มีความประสงค์ที่จะบริจาคเลือดสามารถมาในเวลาราชการ ที่ตึกอำนวยการชั้น 2 และขอแจ้งว่าทาง รพ.ตร.มีเลือดสำรองเพียงพอ ส่วนประชาชนที่อยากให้กำลังใจตำรวจที่บาดเจ็บ สามารถส่งข้อความให้กำลังใจที่ www.pgs.po.th