xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.ไม่หนักใจคำสั่งศาลแพ่ง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบ.ตร.ไม่หนักใจคำสั่งศาลแพ่ง กลับมาทบทวนแผนปฏิบัติ ยอมรับไม่มี กม.เฉพาะดูแลผู้ชุมนุมยาก

วันนี้ (20 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ รพ.ตำรวจ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) พร้อมคณะเข้าเยี่ยมอาการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์การชุมนุมจำนวน 24 ราย พร้อมมอบเงินและกระเช้าเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในในการทำงาน โดยรายแรกได้เข้าเยี่ยม ด.ต.ธีรเดช เล็กภู่ ผบ.หมู ป.สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี ซึ่งมีภาพปรากฎตามสื่อ ว่า เป็นผู้เตะระเบิดที่ถูกโยนเข้าใส่กลุ่มตำรวจ บริเวณสะพานผ่านฟ้า

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า วันนี้ได้มาเยี่ยมตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ขอคืนพื้นที่แยกผ่านฟ้า จำนวน 24 ราย อาการสาหัส 12 ราย ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิด รายที่หนักสุดยังรักษาตัวอยู่ห้องไอ.ซี.ยู.จากเหตุการณ์นี้มีตำรวจเสียชีวิต 1 ราย สำหรับ ด.ต.ธีรเดช ที่ลุกขึ้นเตะระเบิด นั้นถือว่าเป็นผู้ที่มีความกล้าหาญในการตัดสินใจทำให้สูญเสียน้อยลง ตร.จะพิจารณาความดีความชอบเลื่อนยศสูงขึ้นเป็นตำรวจชั้นสัญบัตรยศ ร.ต.ต.จะเข้าที่ประชุม ก.ตร.ครั้งต่อไป ส่วนการสอบสวนคดีมอบ พล.ต.อ.เอก สอบสวนข้อเท็จจริงทุกฝ่าย การสอบสวนขอเวลาสักระยะในการเก็บหลัดฐานเพราะที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่กว้าง

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีศาลเพ่งมีคำสั่งห้าม ตร.สลายการชุมนุมก็ไม่รู้สึกหนักใจ ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น เราต้องมีการทบทวนแผนปฏิบัติ ต้องทำตามกฎหมาย ที่ผ่านมา ตำรวจได้พยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อประคองสถานการณ์การชุมนุมให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ส่วนจะต้องมีการทำหนังสือ ไปถึงศาลแพ่ง เพื่อขอรับทราบแนวทางปฏิบัติของ ศรส.ต่อไปหรือไม่ คงต้องมีการหารือในที่ประชุม ศรส.อีกครั้ง

ผบ.ตร.กล่าวยอมรับว่า การที่ประเทศไทยไม่มีกฎหมายเฉพาะด้านในการควบคุมฝูงชน ทำให้การปฏิบัติงานต่างๆ ยากขึ้น ส่วนที่มีเสียงสะท้อนของผู้ใต้บังคับบัญชาบางส่วนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องรับฟัง และนำมาปรับการทำงานต่อไป พร้อมปฏิเสธว่า ยังไม่ทราบเรื่อง การตั้ง กปปส.ตำรวจ โดยย้ำว่าตำรวจต้องมีหน้าที่รักษากฎหมายและความปลอดภัยของประชาชน

ด้าน พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวว่า วันนี้จะลงพื้นที่เกิดเหตุ เหตุดังกล่าวเป็นสถานการณ์ต่อเนื่องตั้งแต่จุดผ่านฟ้า มีการโยนระเบิดใส่ ตร.ต่อเนื่องหน้าบริษัท เทเวศร์ประกันภัย มีประชาชนถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย อีกจุดคือกลางถนนราชดำเนิน ก่อนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นจุดที่มีผู้ถูกยิงตาย 3 คน เรื่อยมาจนถึงจุดสะพานผ่านพิภพ เป็นจุดที่ ปจ.ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมกดดันให้ถอยร่น จะเก็บวัตถุพยานทั้งหมดเท่าที่ทำได้เพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้นำเครื่องสแกนสามมติลงพื้นที่ เพื่อถ่ายภาพให้เห็น 360 องศา จะได้มองย้อนเหตุการณ์คำนวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ใกล้เคียงเหตุการณ์จริงมากที่สุด ส่วนหลักฐานตอนนี้เรามีการสอบพยานในที่เกิดเหตุให้ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ เก็บเศษวัตถุระเบิดที่ได้จากผู้บาดเจ็บไว้แล้ว จากนี้จะลวพื้นที่เพื่อแสวงหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งที่จะนำไปสู่การหาตัวผู้กระทำผิด

ด้าน ด.ต.ธีรเดช กล่าวเปิดใจเหตุการเตะระเบิดในวันปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมแยกผ่านฟ้า ว่า ตนเองทำหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 มาแล้ว 7-8 ครั้ง ตั้งแต่ 2555 เป็นต้นมา แต่ก็ยังไม่เคยประสบเหตุรุนแรงเท่าครั้งนี้ ที่แรงสุดก่อนหน้านี้มีการกระทบกระทั่งกับผู้ชุมนุมของ เสธ.อ้าย เท่านั้น

ด.ต.ธีรเดช กล่าวว่า วันเกิดเหตุได้รับหน้าที่ไปประจำจุดที่แยกผ่านฟ้า ตนเองอยู่แถวหน้า เพราะมีโล่กันกระสุน ก่อนเกิดเหตุได้เรียกเพื่อนอีกคนที่มีโล่มานั่งประจำจุด เพราะมีช่องว่าง พอเพื่อนมานั่งก็มีเสียงดังคล้ายวัตถุแข็ง เหล็กกระทบโล่ ตนเห็นเป็นระเบิดจึงลุกขึ้นเตะไป หลังจากนั้นก็รู้สึกตัวบ้างเหมือนอยู่ในฝัน

“ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร ทำไปตามสัญชาตญาณ คิดแค่ว่าต้องเตะระเบิดไปให้ไกลที่สุด เป็นห่วงเพื่อนที่อยู่ด้านหลังเยอะ คิดว่าจะทันแต่ก็ไม่ทัน ตอนนั้นไม่ได้คิดหรอกว่าทำไปแล้วตัวเองจะได้รับผลอะไร หรือจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ไหม บวกกับตนเองเป็นนักบอลด้วยก็เลยใช้วิธีเตะไปให้ไกลที่สุด” ด.ต.ธีรเดชกล่าว

ด.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่า ยืนยันตนเองเห็นว่าระเบิดลอยมาจากฝั่งตรงข้ามมาจากเต็นท์ แล้วตกโดนโล่ของเพื่อนที่ตนเองเรียกมาพอดี เพื่อนวางโล่ปุ๊บระเบิดก็ลอยมากระทบพอดี ไม่ใช่ตำรวจทำตกแน่นอน ฝากบอกเพื่อนๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ให้ระมัดระวังตัวให้มากกว่าเดิม สำหรับตนเองเมื่อมาทำหน้าที่ก็จะห้อยพระพุทธสิหิงค์ และพระพิฆเนศ

“ตอนนี้อยากหายเร็วๆ ปวดขาทั้งสองข้างมากไม่สามารถนอนหลับเลย ถ้าหายเป็นปกติก็จะไปทำงานเหมือนเดิมไม่หมดกำลังหรือเสียขวัญ หากต้องไปทำหน้าที่ควบคุมฝูงชนอีกก็ต้องไปทำหน้าที่ โดยส่วนตัวอยากให้คนไทยรักกันมากๆ ไม่อยากให้ใครต้องมาบาดเจ็บล้มตาย ไม่อยากเห็นการทำร้ายกัน และไม่คิดว่าผู้ชุมนุมเป็นฝ่ายตรงกันข้าม ผมก็ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ภูมิใจที่ได้รับการยกย่องเป็นฮีโร่ ขอบคุณผู้บังคับบัญชาที่เลื่อนยศให้” ด.ต.ธีรเดช กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น