อดีตกัปตันบินไทย ให้ปากคำพนักงานสอบสวน กรณีแจ้งจับ “ธาริต” ยก “ปู” เป็นประมุขประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรีละเมิดสถาบันเบื้องสูง
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. น.ต.ถนิต พรหมสถิต ผู้แทนกลุ่มพสกนิกรไทยสร้างประชาธิปไตย (พส.ปช.) และอดีตกัปตันการบินไทย พร้อมเครือข่ายกลุ่ม พส.ปช.เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อเข้าให้ถ้อยคำ ภายหลังได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งเข้าข่ายกระทำการอันเป็นการละเมิดสถาบันเบื้องสูง โดยนำสำเนาหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีดังกล่าวที่ส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ รวม 7 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, ปลัดกระทรวงยุติธรรม, ประธานวุฒิสภา, ประธานสภาผู้แทนราษฎร, สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และผู้นำฝ่ายค้าน รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้อง มอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณาดำเนินการ
น.ต.ถนิต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2556 นายธาริต ได้กล่าวถึงกรณีมีผู้ตัดแต่งรูปภาพ เสือ สิงห์ กระทิง และรูปนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าดีเอสไอ ไม่ได้รับใช้การเมือง แต่ประมุขของประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรี ถูกกระทำอย่างนี้ ซึ่งการใช้คำว่า “ประมุข” กับนายกรัฐมนตรี เป็นสิ่งที่ตนและกลุ่มเครือข่าย พส.ปช.ยอมรับไม่ได้ เพราะนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ประมุขของประเทศ ซึ่งนายธาริต ควรจะแสดงความรับผิดชอบต่อคำพูดดังกล่าว ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุตนได้เคยเข้าร้องเรียนกับหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งที่ดีเอสไอ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ส่วนกรณีนี้จะเข้าข่ายความผิดใดก็คงต้องขอให้ทางตำรวจได้ตรวจสอบและใช้ดุลพินิจในการพิจารณาดำเนินการ
น.ต.ถนิต กล่าวต่อว่า ส่วนนายกรัฐมนตรี ซึ่งเพิกเฉยกับกรณีที่เกิดขึ้น ตนกับทางเครือข่าย พส.ปช.อยู่ระหว่างปรึกษากันว่าจะพิจารณาดำเนินคดีกับนายกรัฐมนตรี ด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ดี ขณะนี้ได้มีการออกประกาศทางสื่อสังคมออนไลน์ไว้แล้วเกี่ยวกับกรณีการกระทำที่ถือเป็นการบ่อนทำลายความมั่นของสถาบันหลักของชาติ โดยในส่วนของคำพูดของนายธาริต นั้น ตนมีคลิปวิดีโอ รวมทั้งข่าวที่เผยแพร่ทางสื่อเป็นหลักฐานที่พร้อมจะนำมาให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบด้วย
ด้าน ร.ต.อ.พัฒนพงศ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งเรื่องมาให้พนักงานสอบสวน บก.ป.รับไว้พิจารณาดำเนินการ เนื่องจากผู้ร้องได้เข้าร้องทุกข์ไว้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนหน้านี้ โดยขั้นตอนหลังจากนี้ก็จะสอบปากคำผู้ร้อง ประกอบกับตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ จากนั้นก็จะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป