กลุ่มหน้ากากขาวรวมตัวกันหน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ประท้วง “ธาริต” หลุดปาก นายกฯ เป็นประมุขของประเทศ ด้าน “ธาริต” หลบหน้า อ้างพูดประมุขเป็นศัพท์ทางรัฐศาสตร์ ขู่กลับใครพูดเรื่องนี้จะหมิ่นสถาบันเสียเอง
วันนี้ (15 ส.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กลุ่มหน้ากากขาวกว่า 30 คน รวมตัวกันประท้วงหน้าอาคาร เนื่องจากไม่พอใจ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กรณีแถลงข่าวรับคดีตัดต่อภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม คู่กับป้ายอุทยานแห่งชาติกุยบุรีเป็นคดีพิเศษ โดยระบุเหตุผลว่าเป็นหน้าที่ของดีเอสไอ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประมุขของประเทศ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ถือป้ายแสดงข้อความว่า ผู้ผ่านงานด้านกฎหมายมาโชกโชน แยกไม่ออกว่าประมุขของประเทศ และหัวหน้ารัฐบาล แตกต่างกันอย่างไร และยังมีข้อความอื่นๆ อีกจำนวนมาก รวมไปถึงมีการตะโกนขับไล่นายธาริตอย่างต่อเนื่อง
หลังจากนั้น กลุ่มหน้ากากขาวได้เตรียมส่งตัวแทน 4-5 คน เข้าพบนายธาริต เพื่อสอบถามถึงสาเหตุกรณีการแถลงข่าวที่ไม่เหมาะสมเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านั้น นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า กรณีที่มีการกล่าวอ้างถึงคำพูดของตนในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ โดยมีบางคำพูดที่เกี่ยวเนื่องเรื่องประมุขของประเทศนั้น ข้อเท็จจริง คือ เป็นการพูดอ้างจากศัพท์ทางรัฐศาสตร์ ว่าด้วยอำนาจ 3 ฝ่ายของบ้านเมือง คือ บริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ ไม่ได้มีความหมายเกี่ยวโยงกับการหมิ่นสถาบันเบื้องสูงแต่อย่างใด และตนเองก็จงรักภักดี และเทิดทูนสถาบันมาตลอด ไม่คิดอาจเอื้อมกระทำการเช่นนั้นแน่ ผู้ที่นำไปกล่าวอ้าง ถือว่าเป็นพวกที่มีอคติกับตนเอง ที่นำเรื่องแบบนี้มาพูด ซึ่งคนที่นำมาพูดเองอาจจะเข้าข่ายหมิ่นสถาบันเสียเอง
ส่วนกรณีที่มีผู้มาประท้วงเรื่องนี้ที่ดีเอสไอ นายธาริต กล่าวว่า ตนเองจะไม่ลงมาพบ เพราะไม่อยากเผชิญหน้า ซึ่งไม่มีผลดีกับใคร และตนเองก็มีภารกิจที่วางเอาไว้ก่อนหน้านี้ด้วย
และในวันนี้ เวลาประมาณ 10.00 น.ได้เรียก น.ส.มัลลิกา มาสอบปากคำ ในกรณีที่โพสต์ภาพที่มีข้อความว่า เสือ สิงห์ กระทิง และภาพนายกรัฐมนตรี คู่กัน หลังจากดีเอสไอรับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว