สตช.สั่งดำเนินคดีกับ 21 แนวมร่วม คปท.ที่บุกรื้อป้ายหน้าสำนักงานวานนี้ ฐานทำให้เสียทรัพย์ ทำลายทรัพย์สินทางราชการ ชี้อายุความ 10 ปี ระดมสรรพกำลังทหารเสริมจาก 42 เป็น 47 กองร้อย เพื่อปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจ เตรียมแผนเจรจาขอคืนพื้นที่บางจุด พร้อมรับมือจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าอาทิตย์นี้
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุม คปท.ทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้บังคับบัญชาได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวผ่านทางกล้องวงจรปิด ที่ ศปก.ตร.อย่างใกล้ชิด สำหรับป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2547 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเจิมป้ายดังกล่าวหลังเปลี่ยนจากกรมตำรวจ เป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจทุกคนมองว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่น่าจะทำ ให้ถือเป็นบทเรียนบททดสอบความอดทนต่อความเจ็บใจ ตำรวจไม่ได้โกรธแค้น เพราะมองว่าเป็นยุทธศาสตร์ในการยั่วยุเจ้าหน้าที่ให้ใช้กำลัง แต่ตำรวจในฐานะมีหน้าที่รักษากฎหมายก็จะเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยทาง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ดำเนินการเอาผิดผู้ก่อเหตุ มอบหมาย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.รวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดี พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ดำเนินการหาตัว พิสูจน์ทราบตัวบุคคล และให้ พล.ต.อ.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ที่ปรึกษา (สบ10) เป็นผู้ดำเนินการตั้งงบประมาณในการซ่อมแซมและทำป้ายขึ้นมาใหม่
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และภาพที่ได้จากสื่อมวลชน พบผู้กระทำความผิด ไม่ต่ำว่า 21 คน เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีฐานทำให้เสียทรัพย์ ทำลายทรัพย์สินทางราชการ อายุความ 10 ปี ส่วนทางกลุ่ม คปท.ออกมาระบุว่าจะทำป้ายใหม่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องนี้ทาง ตร.ไม่ขอรับ จะดำเนินการเองโดยใช้งบประมาณที่มีอยู่ เมื่อดำเนินการเสร็จก็จะทำพิธีเจิมป้ายอย่างยิ่งใหญ่เหมือนเดิม
โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า หลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เป็นผู้คุมกำลัง ตำรวจก็คงปฏิบัติหน้าที่ร่วมทหาร ซึ่งก็มีความพร้อม สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ทางทหารได้เสริมกำลังเพิ่มจาก 42 กองร้อย เป็น 47 กองร้อย เพื่อปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจ จะเน้นมาตรการทางกฎหมายที่เข้มข้นขึ้น ไม่มีการใช้กำลังรุนแรง หรือสลายการชุมนุมแต่อย่างใด แต่อาจมีการเจรจาเพื่อขอคืนพื้นที่บางจุดที่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่มาก แต่มีผลกระทบกับจราจรโดยรวม ซึ่งจะดำเนินการเจรจรากับแกนนำ มอบหมายให้ทาง พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.และกองบัญชาการตำรวจนครบาลไปพิจารณาว่าจุดไหนสมควรที่จะขอคืนพื้นที่
ด้าน พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบในการจัดกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้ และการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มกราคม โดยได้จัดศูนย์อำนวยการ 3 ระดับด้วยกัน คือระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดับภาค และกองบัญชาการและระดับตำรวจภูธรจังหวัด การจัดชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยมีการจัดชุดป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ชุดป้องกันปราบปรามการกระทำผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดชุดรักษาความปลอดภัยในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง การจัดชุดรักษาความปลอดภัยการเลือกตั้งล่วงหน้า และจัดชุดรักษาความสงบประจำศูนย์อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด ชุด รปภ.หีบบัตร ชุดเคลื่อนที่เร็วต่างๆ ซึ่งการจัดกำลังรักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 93,553 หน่วย หน่วยเลือกตั้งนอกเขตอีก 5,294 หน่วย และหน่วยเลือกตั้งกลาง อีก 446 หน่วย จะต้องจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อย 1 นาย ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหารอีกฝ่ายละ 1 นาย รวมหน่วยละ 3 นาย รวมกำลังตำรวจที่ใช้ทั้งสิ้น 129,000 นาย โดยในวันพรุ่งนี้ (24 มกราคม 2557) เวลา 10.30 น.พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้มีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่มีการเลือกตั้งล่วงหน้าทั่วประเทศมารับแนวทางการปฏิบัติงาน
พล.ต.ต.อนุชา กล่าวต่อไปว่า ในวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค.นี้ เป็นวันใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรล่วงหน้า จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนข้าราชการตำรวจและพี่น้องประชาชนที่ได้ลงทะเบียนใช้สิทธินอกเขต และใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้งไว้แล้ว โปรดไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อรักษาสิทธิของท่าน และเป็นการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย สำหรับพี่น้องประชาชนที่มีเหตุจำเป็นไม่สามารถไปลงคะแนนเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โปรดแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ที่ทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2557
พล.ต.ต.อนุชา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ประจำหน่วยเลือกตั้ง, ดูแลการขนส่งหีบบัตร ตลอดจนจัดกำลังและชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง ขอให้พี่น้องประชาชนที่จะเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง มั่นใจในความปลอดภัย หากท่านพบเหตุผิดปกติ เช่น ถูกขัดขวางไม่ให้ใช้สิทธิเลือกตั้งในรูปแบบใดก็ตาม หรือเจ้าหน้าที่ประจำเขตเลือกตั้งมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่วางตัวเป็นกลาง สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ โทร.191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง และสถานีตำรวจในพื้นที่เขตเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้สามารถดำเนินการเลือกตั้งครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัย โปร่งใส บริสุทธิ์ และยุติธรรม
รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์การชุมนุมเมื่อวาน รองโฆษก ตร.กล่าวว่า วานนี้มีการปิดสถานที่ราชการรวม 7 แห่งด้วยกัน คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักปลัดกลาโหม คณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานสรรพากรพื้นที่เขต 18 กระทรวงอุตสาหกรรม กรมการบินพลเรือน กระทรวงแรงงาน ส่วนกิจกรรมในวันนี้มีการเดินขบวนของกล่ม กปปส.เส้นทางอโศก ชิดลม หลังสวน สารสิน วิทยุ เพชรบุรี จบที่อโศก มวลชนเวทีคู่ขนานในส่วนภูมิภาคมีทั้งหมด 24 จังหวัดด้วยกัน ส่วนกิจกรรมของผู้ที่สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งมี 6 จังหวัดด้วยกัน แต่ไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น
ส่วนกรณีที่มีคลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจเล่นการพนันภายในตู้ยาม เรื่องนี้ได้มีคนร้องเรียนผ่านมาทางจเรตำรวจเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา