xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง “ปอ ประตูน้ำ” คดีเปิดบ่อนการพนัน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


อุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง “ปอ ประตูน้ำ” ถูกกล่าวหาพัวพันเป็นเจ้าของบ่อนใหญ่ย่านราชปรารภ ศาลชี้พยานหลักฐานไม่เพียงพอ ส่วน “ตี๋ใหญ่” เจ้าของอาคาร ให้จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา

วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 914 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.4598/2550 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายไพจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือปอ ประตูน้ำ ผู้กว้างขวางย่านประตูน้ำ, นางอำภา ธรรมโรจน์พินิจ ภรรยานายไพจิตร, น.ส.ประภาพรรณ ธรรมโรจน์พินิจ บุตรสาว, นายวันชัย หรือตี๋ใหญ่ แซ่เหลี่ยว, นายสุรินทร์ วงศ์ดามา, นายสมชัย บุญมั่นแสนสุข, นายจงศักดิ์ เชื่อวิเชียร และนายอำนาจ มีศรีกมลกุล ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-8 ตามลำดับในความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน เอาทรัพย์สินโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันรับของโจร, ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา, ร่วมกันซื้อหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามหรือข้อจำกัด และร่วมกันมีไพ่ไว้ในครอบครองเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83, 91,357 , พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469, พ.ร.บ.ไพ่ พ.ศ. 2486, พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 และ พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475

คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่าง ปี 2546 ถึงวันที่ 4 ก.พ. 2549 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยทั้ง 8 คน ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันขนาดใหญ่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน โดยจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกันซื้อและรับไว้เครื่องจักรกลไฟฟ้าประเภทตู้ม้า จำนวน 15 ตู้ ราคา 30,000 บาท คิดเป็นค่าอากรขาเข้า 6,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 2,520 บาท รวมราคาของและค่าภาษีอากรเป็นเงิน 38,520 บาท ชิปแลกเงิน จำนวน 9,862 อัน ราคา 400,991.95 บาท คิดเป็นอากรขาเข้า 80,194 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 33,680 บาท รวมราคาของและค่าภาษีอากรเป็นเงิน 514,865.95 บาท เครื่องนับไพ่อัตโนมัติ 24 เครื่อง ราคา 5,202.72 บาท คิดเป็นอากรขาเข้า 1,040.54 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 437.03 บาท รวมราคาของและค่าภาษีอากรเป็นเงิน 6,680.29 บาท ไพ่ จำนวน 1,507 สำรับ ราคาสำรับละ 87.74 บาท รวมเป็นเงิน 132,224.18 บาท โดยมีผู้ลักลอบนำของดังกล่าวซึ่งเป็นของที่มีแหล่งกำเนิดในต่างประเทศและต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามและข้อจำกัดอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย รวมทั้งตรวจยึดรถยนต์ได้ 64 คัน โดยจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 5 และที่ 6 ได้ร่วมกันรับของโจร รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งรถยนต์ หมายเลขทะเบียน ษณ-3345 กรุงเทพ ฯ จำนวน 1 คัน แล้วจำเลยทั้งสี่ดังกล่าวได้บังอาจเรียกดอกเบี้ยในการให้กู้ยืมเงินในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี ซึ่งสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดให้เรียกเก็บได้ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จากพยานหลักฐานโจทก์ แม้จะฟังได้ว่าตึกแถวในซอยเจริญสุข ถนนราชปรารภ จะดัดแปลงเป็นบ่อนพนันและเปิดให้มีการเล่นพนันตลอด 24 ชม. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามการพนันและผู้มีอิทธิพลได้ส่งสายสืบเข้าไปแอบเล่นพนันในวันที่ 2-3 ก.พ. 2549 ก่อนที่วางแผนให้ชุดจับกุมเข้าไปจับกุมผู้ต้องหาในเวลา 05.00 น.ของวันที่ 4 ก.พ.2549 ได้นักพนันทั้งหมด 262 คน ซึ่งเดิมตึกดังกล่าวเคยมีชื่อของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นภรรยาของจำเลยที่ 1 ถือครองกรรมสิทธิ์อยู่ แต่จำเลยที่ 2 ได้นำสืบว่าได้ขายและให้เช่าตึกกับจำเลยที่ 4 ไปแล้ว ซึ่งจำเลยที่ 1 และ 2 นำสืบโดยมีหลักฐานเป็นโฉนดที่ดินและการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ถูกต้อง ดังนั้น ที่จำเลยที่ 4 อ้างว่าเคยใช้ตึกเปิดเป็นโรงงานตัดเย็บผ้า โดยภายหลังเลิกกิจการจึงได้ให้คนอื่นเช่าต่อ แต่จากพยานหลักฐานกลับปรากฏว่าจำเลยที่ 4 เคยฟ้องไล่ที่บุคคลอื่น จึงเชื่อว่าขณะเกิดเหตุตึกดังกล่าวจำเลยที่ 4 ยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และรู้เห็นเรื่องการเปิดบ่อนพนัน อีกทั้งพยานโจทก์ยังนำสืบว่าเจ้าของบ่อนพนันคือนายตี๋ ซึ่งเป็นคนเดียวกับจำเลยที่ 4 จึงรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 4 จัดให้มีการเล่นพนัน

ส่วนที่ฝ่ายโจทก์นำสืบ โดยนำภาพถ่ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดของสายสืบขณะแฝงตัวเข้าไปในบ่อนและถ่ายภาพไว้ ปรากฏภาพจำเลยที่ 1 เล่นการพนันนั้น แต่จากคำเบิกความของพยานอื่นไม่ยืนยันว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของบ่อน แต่เจ้าของบ่อนคือนายตี๋ ซึ่งผู้เล่นพนันไม่จำเป็นต้องมีความผิดฐานเป็นเจ้าของบ่อน และเจ้าของบ่อนก็ไม่ใช่จะมีความผิดฐานเป็นผู้เล่นเสมอไป พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมายังไม่เพียงพอให้รับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 และ 2 ผิดฐานเป็นผู้เปิดให้เล่นพนัน จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 เช่นเดียวกับจำเลยที่ 3, 5, 6, 7 และ 8 พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1-3, 5-8 แต่ให้ขังจำเลยที่ 1 ไว้ระหว่างอุทธรณ์ ส่วนจำเลยที่ 4 มีความผิดฐานจัดให้มีการเล่นพนัน ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียว แต่ผิดต่อกฎหมายหลายบทตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปี

ต่อมาอัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลย ส่วนจำเลยที่ 4 อุทธรณ์ ขอให้ศาลยกฟ้อง โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำเบิกความของพยานโจทก์มีน้ำหนักน้อย ยืนยันได้เพียงว่าจำเลยที่ 1 เข้าร่วมเล่นการพนัน ไม่อาจรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของบ่อนพยานหลักฐานโจทก์ ไม่เพียงพอ ที่จะรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยที่ 1 มีความผิด พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องและให้จำคุกจำเลยที่ 4 ในฐานะเจ้าของบ่อน เป็นเวลา 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา
นายไพจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือ ปอ ประตูน้ำ (แฟ้มภาพ)
กำลังโหลดความคิดเห็น