“ปวีณา” นำตัวนางแบบสาวนิตยสารชื่อดังเข้าแจ้งความตำรวจพญาไท ถูก “ป้อ” ลูกชาย “ป.ประตูน้ำ” กักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้ายร่างกายทารุณ พร้อมข่มขู่ฆ่าหากเลิกรา ชี้ที่ผ่านมาพยายามหนีหลายครั้ง แต่ถูกจับได้ถูกซ้อมจนน่วม ซัดไม่รู้ป่วยเป็น “โรคจิต หรือ เล่นยา”
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่ สน.พญาไท นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นำตัว น.ส.นัฏฐิกานต์ อัศวมงคลพันธุ์ อายุ 21 ปี นางแบบสาวนิตยสารชื่อดัง เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท กรณีถูกนายบุญสิทธิ์ ธรรมโรจน์พินิจ หรือ ป้อ บุตรชายนายไพจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือที่รู้จักกันในนาม “เฮียปอ ประตูน้ำ” ที่เคยคบหาเป็นแฟนกันมาร่วม 2 ปีเศษ ติดตามตัวขู่ฆ่าหลังขอแยกทาง เพราะทนถูกทำร้ายร่างกาย กักขังต่อไปไม่ไหว
น.ส.นัฏฐิกานต์ กล่าวว่า ตนได้รู้จักกับนายป้อผ่านทางเพื่อนอีกที คบกันเป็นแฟนมาประมาณ 2 ปีเศษ โดยเริ่มคบกันประมาณ 7 เดือนแรก นายป้อมีนิสัยและพฤติกรรมดีมาก แต่หลังจากนั้นนายป้อก็เริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เวลาอยู่กับตนมักจะหงุดหงิด มีอารมณ์แปรปรวนหาเรื่องทะเลาะเป็นประจำ จากนั้นเริ่มทำร้ายร่างกายตบตี ชกต่อยที่ศีรษะ ตามร่างกายฟกช้ำ มีร่องรอยเขียวช้ำตามใบหน้าและลำตัวเป็นประจำ บางทีก็เอาส้อมทิ่มศีรษะ และล่าสุดที่หนักคือเอาพัดลมตั้งโต๊ะเขวี้ยงใส่ศีรษะกระทั่งเลือดอาบแล้วยังไม่นำไปส่งโรงพยาบาล บอกให้นั่งอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ ไม่ต้องไปไหน จนเพื่อนนายป้อมาหาเพื่อเตรียมออกไปเที่ยวด้วยกันเห็นสภาพ จึงได้พาไปเย็บแผลที่โรงพยาบาลพญาไท 1 จำนวน 5 เข็ม โดยมีนายป้อไปด้วย เวลาที่นายป้อลงมือทำร้ายตนเหมือนเค้าจะมีความภูมิใจมาก ซึ่งตนไม่ทราบว่าเค้าเป็นโรคจิต หรือมีการเสพยาหรือไม่ จนตนนั้นเริ่มทนกับพฤติกรรมแบบนี้ไม่ไหว พยายามจะหนีหลายหนแล้ว เมื่อปีที่แล้วเคยคิดหนีตอนที่นายป้อไม่อยู่บ้าน ตนขับรถหนีกลับบ้านระหว่างทางนายป้อได้ขับรถติดตามมาแล้วขับรถชนที่ประตูข้างรถตนให้หยุดจนรถเสียหายทั้งคัน แล้วก็นำไปตนไปกักขังไว้เหมือนเดิมไม่ให้หลบหนีไปไหน
น.ส.นัฏฐิกานต์ กล่าวอีกว่า กระทั่งเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นายป้อหลับสนิทตนถือโอกาสหนีออกมา และเลิกใช้โทรศัพท์ส่วนตัวไปเลย แต่นายป้อยังคอยเช็กโทรศัพท์ได้ เวลาตนบอกเลิกนายป้อมักจะข่มขู่เอาชีวิต โดยบอกกับตนว่า “คนอย่างมึงจะหนีไปไหนได้ กูมีอิทธิพลและรู้จักตำรวจเยอะเยอะ” จะคอยตามราวีทั้งที่มหาวิทยาลัย และที่ตนทำงานอยู่ ซึ่งขณะที่หลบหนีมาหนึ่งเดือน ตนไม่สามารถไปเรียนหรือทำงานได้เลย เพราะโดนตามราวีไม่เลิก เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายป้อมีการส่งข้อความขู่ฆ่าตน มาทางวอตช์แอปอีกด้วย ซึ่งตนรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความปลอดภัยในชีวิต ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครอีกแล้ว จึงเดินทางไปร้องเรียนต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ และตัดสินใจมาแจ้งความ เพราะถ้าหนูหายไปจากนี้จะได้ทราบว่าเป็นเพราะใคร ถ้าไม่เข้าแจ้งความก็จะไม่มีใครทราบว่าเป็นเค้าที่เป็นคนทำ
ด้านนางปวีณา กล่าวว่า ได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหายที่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ ที่เดินทางมาวันนี้เพื่อประสานให้ทาง พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท รับแจ้งความไว้พร้อมนำหลักฐานการข่มขู่ทางวอตช์แอปมามอบให้เจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบ ก่อนจะประสานไปยังกระทรวงยุติธรรมให้คุ้มครองพยาน และทางมูลนิธิฯ จะเข้ามาดูแลร่วมด้วยในความปลอดภัย พร้อมดูแลเยียวยาในเรื่องสภาพจิตใจ เนื่องจากพยานหวาดกลัวระแวงไปหมดทุกอย่าง สภาพจิตใจค่อนข้างแย่
ทางด้าน พ.ต.อ.สมาน เปิดเผยว่า ขณะนี้รับแจ้งความลงบันทึกประจำไว้ โดยจะต้องมีการสอบสวนผู้เสียหายอย่างละเอียดเสียก่อน โดยมอบหมายให้ พ.ต.ต.วิทยากร สุวรรณเรืองศรี พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการ รับเป็นเจ้าของคดีในการสอบสวน น.ส.นัฏฐิกานต์ อัศวมงคลพันธุ์ อย่างละเอียดตั้งแต่เริ่มแรกคบหากันอย่างไร เข้าข่ายผิดข้อหาใดบ้าง ก่อนจะทำการออกหมายเรียกนายบุญสิทธิ์ หรือ ป้อ ธรรมโรจน์พินิจ มาสอบสวนต่อไป