สตช.ขู่ดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ปิดล้อม สน.ดินแดง และขัดขวางการรับสมัคร ส.ส. รับไม่ได้ผู้ชุมนุมแสดงพฤติกรรมไม่สมเหมาะสมกับป้ายชื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมเอาผิดฐานทำลายภาพลักษณ์ ตร.
วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. เปิดเผยผลการประชุม ศอ.รส. โดยระบุว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคง ลงไปพื้นที่ไปกำกับดูแลการรับสมัครรับเลืแกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ร่วมกับตำรวจนครบาล โดยระบุว่า ล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แจ้งว่ามีพรรคการเมืองไปสมัครภายในสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครแล้ว จำนวน 8 พรรค และตัวแทนพรรคการเมืองอื่นๆ ได้ไปลงบันประจำวันไว้ที่ สน.ดินแดง เนื่องจากเข้าพื้นที่ไม่ได้จำนวน 26 พรรค และอีก 1 พรรคไปลงไว้ที่กองปราบปราม ขณะเดียวกัน ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไปปิดล้อม สน.ดินแดง โดยมีการตัดน้ำตัดไฟด้วย ซึ่งยืนยันว่าการไปปิดล้อมสถานที่รับสมัคร และสถานีตำรวจ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ผู้กระทำผิดต้องรับผิดชอบในการกระทำดังกล่าว
“การขัดขวางการรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคการเมืองต่างๆ นั้น การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 มาตรา 43 มีอัตราโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งการกระทำดังกล่าวผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 โทษจำคุก 5 ปี ปรัยไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงอยากจะขอเรียนพี่น้องประชาชนให้ตระหนักถึงการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายและการฝ่าฝืนต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเก็ยรวบรวมข้อมูลหลักฐาน โดนการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว พร้อมทั้งคำปราศรัยไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อจะนำมาตรวจสอบการกระทำดังกล่าว” โฆษก ศอ.รส.กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีมีกลุ่มผู้ชุมนุมแสดงพฤติกรรม ไม่สมเหมาะสมกับ ป้ายชื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจากการพิสูจน์ทราบพบมีประมาณ 5-6 คน ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไป รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี เนื่องจากเป็นกระทำผิดต่อองค์กร และภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการบิดเบือนข้อมูล อ้างว่าตนได้แถลงข่าววานนี้เรื่องจำนวนผู้ชุมนุม โดยยืนยันว่าเมื่อวานที่ผ่านมาตนไม่ได้มีการแถลงข่าว และยังมีการบิดเบือนข้อมูลต่อ อ้างว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้แถลงข่าวขอโทษต่อกรณีที่ตนแถลงไป ยืนยันว่า ผบ.ตร.ไม่ได้แถลงข่าวเช่นเดียวกัน ซึ่งกรณีดังกล่าวตนจะไม่แจ้งความดำเนินคดี แต่ต้องการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจข้อเท็จจริงเท่านั้น