ประธาน กกต.พร้อมคณะกรรมการรวม 5 คน เดินทางหารือกองปราบฯ รับมือการจับหมายเลข ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้านหัวหน้าพลังเครือข่ายประชาชน นำสมาชิกพรรค เข้าลงบันทึกประจำวันว่าไม่สามารถเข้าไปสมัคร่รับเลือกตั้งได้
วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 07.00 น.นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. พร้อมคณะกรรมการรวม 5 คน เดินทางมาหารือเกี่ยวกับแผนรองรับในการจับหมายเลข ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อหากไม่สามารถ จับหมายเลขที่อาคารกีฬาเวสน์ ศูนย์เยาวชนไทยญี่ปุ่น-ดินแดงได้ โดยมี พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาท ผบก.ป.ให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า หลังจาก กกต.มีแผนให้ตำรวจดูแลความเรียบร้อย และเตรียมแผนรองรับในการรับแจ้งความจากผู้สมัคร ส.ส.ไว้ 3 จุด คือ ที่ สน.ดินแดง ที่กองปราบปราม และที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หากมีผู้ชุมนุมขัดขวางที่อาคารกีฬาเวสน์ ทั้งนี้ ตำรวจยังมีสถานที่รองรับในการแจ้งความไว้อีก 10 จุด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และตั้งแต่เมื่อเช้า กกต.ได้ประชุมหาแนวทาง หลังพบว่าผู้สมัครไม่สามารถเข้าไปในอาคารกีฬาเวสน์ได้ ซึ่ง หลัง 08.30 น.ต้องมีการจับหมายเลข แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป และคาดว่าอาจเตรียมสถานที่จับหมายเลขผู้สมัครสำรองไว้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่ง ล่าสุด กกต.ได้ส่งนายภุชงค์ นุตาวงศ์ เลขาธิการ กกต.ไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดทางให้ผู้สมัคร เข้าไปในพื้นที่อาคาร เพื่อไปจับหมายเลขผู้สมัคร แล้ว
ทั้งนี้ ที่กองปราบปรามเมื่อช่วงเช้า มี น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าพลังเครือข่ายประชาชน นำสมาชิกพรรคมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่กองปราปรามว่าไม่สามารถไปสมัครที่อาคารกีฬาเวสน์ได้ และตัวแทนพรรคเพื่อไทยมายื่นเอกสารการแจ้งความเพิ่มเติมแล้ว
จากนั้น 5 กกต.ได้เดินทางออกจากกองปราบปรามเพื่อเตรียมตัวแถลงข่าวที่สำนักงาน กกต.ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการหารือร่วมระหว่าง กกต.และเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับการเตรียมสถานที่ไว้สำหรับจับหมายเลขนั้น หนึ่งในสถานที่ที่มีการเสนอให้ใช้คือศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่ก็ยังไม่มีการสรุปว่าจะใช้สถานที่นี้หรือไม่
สำหรับพรรคการเมืองที่เดินทางเข้าแจ้งความที่ บก.ป. ตั้งแต่ช่วงเช้า มี 2 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคพลังเครือข่ายประชาชน และพรรคเสรีนิยม โดย น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าพรรคพลังเครือข่ายประชาชน กล่าวว่า ได้รับเอกสารจาก กกต. เมื่อค่ำวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับสถานที่แจ้งความ จึงเดินทางมาแจ้งลงประจำวันที่ บก.ป.ซึ่งก็มีการตรวจสอบเอกสารต่างๆ เห็นทาง กกต. ว่าหากแจ้งลงประจำวันไว้ว่าไม่สามารถเข้าไปสมัครได้และนำเอกสารไปประกอบการสมัครก็น่าจะสมบูรณ์
น.ส.กฤษอนงค์ กล่าวว่า พรรคการเมืองตั้งมาเพื่อต่อสู้ตามอุดมการณ์ ซึ่งแต่ละพรรคก็มีอุดมการณ์รักชาติเหมือนกัน เมื่อเราเป็นพรรคการเมืองก็ทำหน้าที่ตามสิทธิที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่เมื่อสถานการณ์ความขัดแย้งเป็นเช่นนี้ว่าจะปฏิรูปก่อนเลือกตั้งหรือเลือกตั้งก่อนปฏิรูปนั้น ส่วนตัวก็เห็นว่าคงต้องเจรจากันและพบกันครึ่งทางไม่เช่นนั้นก็มองไม่เห็นทางออก
อย่างไรตามจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ กกต.ที่มาตั้งโต๊ะประจำอยู่ที่ บก.ป.ได้รับแจ้งว่า มาช่วยตรวจสอบเอกสารต่างๆ ของพรรคการเมือง และให้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อน ซึ่งตรงนี้ถือว่ายังไม่ใช่การรับสมัคร เพราะหากรับสมัครเรียบร้อยจะต้องมีการชำระเงินและออกใบเสร็จรับเงินด้วย
