พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการด้านยุทธศาสตร์ที่มีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะกำกับดูแลศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เป็นประธาน ว่า รัฐบาลจะไม่ยกระดับการดูแลสถานการณ์โดยประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมมวลชนที่จะเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาล ในวันจันทร์ 9 ธันวาคมนี้ จะเน้นการเจรจาและมาตรการสันติวิธี โดยขอความร่วมมือให้ผู้ชุมนุมด้วยความสงบไม่บุกรุกสถานที่ราชการ
ด้าน พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษก ศอ.รส. เปิดเผยว่า ศอ.รส.เน้น 2 มาตรการดูแลการชุมนุมวันจันทร์นี้ คือ เน้นการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
นอกจากนี้ ศอ.รส.ยังเตรียมออกหมายเรียกผู้สนับสนุนคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) มารับทราบข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับกบฏ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 3-15 ปี สถานเดียว ซึ่งผู้ที่ให้การสนับสนุนมีทั้งยานพาหนะที่ใช้รับส่งมวลชนและสนับสนุนทางด้านการเงิน
ทั้งนี้ ศอ.รส.ยังแต่งตั้ง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้ากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ศอ.รส.เพื่อรับมือการชุมนุมในวันจันทร์นี้
ด้าน พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษก ศอ.รส. เปิดเผยว่า ศอ.รส.เน้น 2 มาตรการดูแลการชุมนุมวันจันทร์นี้ คือ เน้นการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
นอกจากนี้ ศอ.รส.ยังเตรียมออกหมายเรียกผู้สนับสนุนคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) มารับทราบข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับกบฏ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 3-15 ปี สถานเดียว ซึ่งผู้ที่ให้การสนับสนุนมีทั้งยานพาหนะที่ใช้รับส่งมวลชนและสนับสนุนทางด้านการเงิน
ทั้งนี้ ศอ.รส.ยังแต่งตั้ง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้ากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ศอ.รส.เพื่อรับมือการชุมนุมในวันจันทร์นี้