บช.น.เตรียมโอนคดี “ไอ้ติ๊งต่าง” ฆาตกรฆ่าข่มขืนเด็กในหลายท้องที่ให้กองปราบฯ รับผิดชอบต่อ หลังศาลไม่อนุมัติขอเบิกตัวมาสอบสวนต่อ
วันนี้ (18 ธ.ค.)ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี นายหนุ่ย หรือ ติ๊งต่าง อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนน้องการ์ตูน วัย 6 ขวบ ว่า จากการสอบสวนพบว่า นายหนุ่ย ผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุมาหลายพื้นที่ ถือเป็นบุคคลอันตราย ซึ่งขณะนี้นายหนุ่ยได้ถูกส่งตัวไปฝากขังที่ศาลแล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้ยื่นเรื่องต่อศาลขอนำตัวกลับมาควบคุมเพื่อที่จะสอบปากคำ และขยายผลต่อ แต่ทางศาลไม่อนุมัติ หลังจากนี้จึงต้องประสานไปตามท้องที่ที่ผู้ต้องหาเคยให้การไว้ว่าก่อเหตุที่ใดมาบ้าง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดต้องดำเนินการตามอำนาจที่ตำรวจมีอยู่ คดีของนายหนุ่ย เกิดขึ้นหลายท้องที่ จึงมีแนวโน้มว่าคดีของนายหนุ่ย อาจจะถูกโอนให้กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เป็นผู้ดำเนินการต่อทั้งหมด
ด้าน พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น.ดูแลงานสืบสวน กล่าวว่า ตำรวจนครบาลได้ประสานทาง บช.ภ.4 ให้ปูพรมติดตามเส้นทางที่วงดนตรีตระเวนแสดงคอนเสิร์ต และรับนายหนุ่ยมาร่วมวงตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา รวมถึงต้องตรวจสอบวงหมอลำ 2 วง ที่นายหนุ่ย รับว่าเคยทำงานด้วยก่อนหน้าที่จะมาร่วมวงดนตรี ในส่วนของพื้นที่กรุงเทพฯนั้น ในส่วนของพื้นที่ สน.ดอนเมือง ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าก่อเหตุ ยังไม่พบผู้มาแจ้งความ รวมถึงย่านบางบอน ก็ยังไม่พบ ซึ่งฝ่ายสืบสวนก็ยังวิเคราะห์ไปด้วยว่า เด็กที่ถูกก่อเหตุอาจไม่ใช่คนไทย แต่เป็นชาวต่างด้าวก็เป็นได้ จึงอาจไม่กล้าแจ้งความ รวมถึงคดีตามต่างจังหวัดที่บางครั้งพ่อแม่ผู้ปกครอง อาจจะเป็นผู้มาเที่ยวงานหรือเป็นผู้มาขายของขายสินค้า ทำให้บางครั้งรายละเอียดเรื่องการแจ้งความอาจไม่ชัดเจน เช่นเดียวกับบางส่วนก็ต้องยอมรับว่า ตำรวจในพื้นที่บางแห่งอาจปล่อยปละละเลยไม่รับแจ้งความ เพราะเห็นเป็นคดีธรรมดาทั้งที่ไม่ใช่ ต้องให้ความสำคัญ
พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยากให้ผู้ที่เคยรับนายหนุ่ยทำงานมาก่อนหน้านี้ รวมถึงวงหมอลำทั้ง 2 วง ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ข้อมูลรายละเอียดการแสดงตามงานต่างๆ เพื่อไปเปรียบเทียบ ตรวจสอบว่า ระหว่างนั้นเคยเกิดเหตุเด็กตายหรือหายหรือไม่ เพื่อร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงาน เบื้องต้นที่นายหนุ่ย รับว่า จำได้ 8 คดีนั้น ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน แต่ตรวจสอบจากพฤติกรรมระยะเวลาประมาณ 15 เดือน หลังจากพ้นจากเรือนจำออกมา ก็น่าจะก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากการก่อเหตุช่วงหลังที่ค่อนข้างถี่ หลังคดีน้องการ์ตูนก็ยังไปก่อเหตุมาอีก 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม คดีนี้แม้ผู้ต้องหาจะฝากขังไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามติดตามสอบสวนขยายผลให้ได้