สน.บึงกุ่ม จับเด็กช่างกลย่านบางกะปิ ใช้อาวุธปืนยิง “น้องโฟล์ค” เสียชีวิต ขณะที่พ่อเหยื่อถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปขอขมาศพ แต่ทางญาติโกรธแค้นหวิดถูกรุมประชาทัณฑ์
วันนี้ (17 ธ.ค.) พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ ผกก.สน.บึงกุม พ.ต.ท.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ รอง ผกก.สส.สน.บึงกุ่ม ร่วมกันจับกุมตัว นายสุรพงษ์ แสนสุโพธ์ อายุ 21 ปี นักเรียนเทคโนโลยีบางกะปิ ปวส.1 ช่างยนต์ โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ขณะเดินอยู่หน้าบ้าน สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนใช้ปืนลูกซองยิงจริง แต่ตนได้ยิงใส่กลุ่มคู่อริเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมที่มาดักอยู่ฝั่งตรงข้ามทางเข้าวัดพิชัย ซ.เสรีไท 2 ขณะที่ผู้ต้องหาขับรถผ่านไปถูกกลุ่มอริขับรถไล่ตาม จึงกลับรถมาหน้าวัดพิชัย แล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่อริ แต่พอดี นายจิณณะณัฎฐ์ จันทร์ต๊ะ ขับ จยย.พาน้องโฟล์คบุตรชายผ่านมาพอดี ตนต้องกราบขอโทษพ่อแม่ของน้องโฟล์คด้วย ตนไม่ได้ตั้งใจจริงๆ หลังก่อเหตุเอาปืนไปทิ้งที่คลองแสนแสบ ใกล้จุดเกิดเหตุ
ร.ต.ท.ภาณุพงษ์ พื้นสันเที้ย พงส.สน.บึงกุ่ม นําตัว นายสุรพงษ์ ไปยังศาลา 4 วัดบึงทองหลาง เพื่อกราบขอขมาน้องโฟล์ค ขณะที่ทางญาติเตรียมทําการเผาศพ เจ้าหน้าที่ได้นําผู้ต้องหาลงจากรถโดยผู้ต้องหาใช้แขนปิดหน้าตลอดเวลาที่จุดธูปขอขมา โดยญาติๆ ของน้องโฟล์คอยู่ในอาการโกรธแค้นจะรุมประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงต้องรีบนําตัวไปศาลอาญา รัชดาฯ เพื่อขอฝากขังทันที
น.ส.ขวัญฤดี สว่างภพ ผู้เป็นมารดาของน้องโฟล์ค กล่าวว่า ดีใจที่ตํารวจจับกุมคนร้ายได้ แต่น่าจะให้ตนได้สอบถามถึงสาเหตุของการกระทําในครั้งนี้ แต่ก็ยังไม่ทันได้ถามตํารวจก็เอาตัวไปก่อนแล้ว ส่วน ตนก็คงจัดงานเผาศพน้องโฟล์คก่อน ส่วนสามีก็อาการดีขึ้นแล้ว
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.ท.อุดร พหุลรัตน์ พนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม นำตัวนายสุรพงษ์ ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่น มายื่นคำร้องต่อศาลขอฝากขังผลัดแรก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 ธ.ค.56 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น โดยต้องทำการสอบสวนพยานบุคคลอีก 7 ปาก รอผลการตรวจสอบพิมพ์มือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา และรอผลการตรวจพิสูจน์อาวุธปืนและหัวกระสุนโดยคำร้องระบุพฤติกรรมผู้ต้องหาว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น.ระหว่างที่นายจิณณะณัฏฐ์ จันทร์ต๊ะ อายุ 35 ปี ผู้เสียหายได้ขับรถจักรยานยนต์ โดยมี ด.ช.พงคภัค จันทร์ต๊ะ หรือ น้องโฟล์ค อายุ 4 ปี ลูกชายผู้เสียหายนั่งมาด้วย ผ่านมาถึงบริเวณสะพานข้ามคลองพิชัย หน้าทางเข้าวัดพิชัย ถ.เสรีไทย แขวงและเขตบึงกุ่ม กทม.ได้ถูกผู้ต้องหากับพวกซึ่งดักซุ่มรอคู่อริเป็นนักเรียนต่างสถาบันอยู่บริเวณนั้น ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้เสียหายแล้วพากันหลบหนีไป มีพลเมืองดีนำผู้เสียหายซึ่งบาดเจ็บสาหัสส่งโรงพยาบาล ส่วน ด.ช.พงคภัค เสียชีวิตในเวลาต่อมา ภรรยาของนายจิณณะณัฏฐ์ ผู้เสียหายจึงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเก็บหลักฐานจากที่เกิดเหตุเพื่อตรวจพิสูจน์ ซึ่งผู้ต้องหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยความสมัครใจ โดยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนว่าเป็นผู้กระทำผิดจริง การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตาม ป.อาญามาตรา 289(4), พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 และเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรฯ จึงขอศาลอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหารายนี้ระหว่างทำการสอบสวนทั้งนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการยื่นประกันตัวของผู้ต้องหา เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญ และเป็นการกระทำอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย หากปล่อยไปโดยไม่มีการควบคุมตัวน่าเชื่อว่าผู้ต้องหาอาจจะหลบหนีไปและก่อความยุ่งยากในการติดตามตัวมาดำเนินคดีศาลสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้