xs
xsm
sm
md
lg

ปอศ.จับหนุ่มใหญ่รัสเซียแก๊งสกิมเมอร์เพิ่มอีก 1 ราย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบก.ปอศ. แถลงจับกุมหนุ่มใหญ่รัสเซีย แก๊งสกิมเมอร์ได้เพิ่มเติมอีก 1 ราย ยังปากแข็งอ้างไม่มีส่วนรู้เห็น ทำธุรกิจเครื่องประดับสตรีอยู่ประเทศสหัฐอาหรับเอมิเรตส์ อ้างเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยเท่านั้น

เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (21 พ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พล.ต.ต.สุรพล หอมชื่นชม ผบก.ปอศ. พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และ พ.ต.ท.มนัส ชมเชย สว.กก.สส.จว.นครราชสีมา ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายอังเดร เวเรเทลนิคอฟ อายุ 46 ปี สัญชาติรัสเซีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา เลขที่ จ.352/2556 ลงวันที่ 20 พ.ย.56 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ใช้หรือมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งใดๆ (บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม) อันได้มีโดยรู้ว่าเป็นของปลอมหรือแปลงขึ้น และร่วมกันกระทำผิดตามความผิดมูลฟอกเงิน อันเป็นความผิดที่เกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติ หรือเพื่อการค้า โดยจับกุมได้พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ 16 ใบ โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง แฟลชไดรฟ์ 3 อัน และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 3 เครื่อง

พล.ต.ต.พงษ์เดชกล่าวว่า หลังจากเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ สภ.เมืองนครราชสีมา จับกุมตัว นายวาซิลี อิวานอฟ อายุ 27 ปี และนายเซอร์กี ปีเตอร์เนฟ อายุ 38 ปี 2 ผู้ต้องหาแก๊งสกิมเมอร์ชาวรัสเซียได้พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์จำนวน 328 ใบ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการสอบสวนขยายผลโดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การว่า เงินที่กดมาได้จะได้ส่วนแบ่ง 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือจะนำไปให้นายอังเดรเพื่อโอนส่งต่อไปให้แก่หัวหน้าแก๊ง ทางเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับเอาไว้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตามหาตัวนายอังเดร จนพบว่าหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซอยสุขุมวิท 11 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.45 น.วันที่ 21 พ.ย.ก็สามารถจับกุมนายอังเดรได้พร้อมของกลางดังกล่าว

พล.ต.ต.พงษ์เดชกล่าวต่อว่า นายอังเดรยังให้การปฏิเสธ และอ้างว่าตนเองทำธุรกิจเครื่องประดับสตรีแฮนด์เมดอยู่ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แค่เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยเท่านั้น แต่จากการตรวจสอบการเดินทางพบว่าเจ้าตัวเดินทางเข้าออกประเทศไทยบ่อยครั้ง โดยครั้งล่าสุดเข้ามาเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นภายในห้องพักก็พบพยานหลักฐานต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับผู้ต้องหาชาวรัสเซียที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และข้อมูลเกี่ยวกับสกิมเมอร์ เช่น คู่มือการใช้สกิมเมอร์ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ คีย์การ์ดห้องพักตามโรงแรมที่เป็นแถบแม่เหล็ก และตั๋วเครื่องบินกลับประเทศรัสเซีย ในวันที่ 28 พ.ย.นี้ด้วย หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม เชื่อว่าน่าจะเจอหัวหน้าแก๊งของนายอังเดรแน่นอน พร้อมทั้งจะทำการตรวจสอบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้ข้อมูลบัตรผู้เสียหายมาได้อย่างไร ใครเป็นคนนำข้อมูลมาให้ เนื่องจากพบว่ามีผู้เสียหายอยู่ถึง 50 ประเทศด้วยกัน

กำลังโหลดความคิดเห็น