xs
xsm
sm
md
lg

แฮกเกอร์อาละวาดหนัก! ดูดเงินเอทีเอ็มผู้เสียหาย 2 วันกว่า 40 ราย มูลค่ากว่า 6 แสนบาท

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ปชช.ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ สน.ลุมพินี กรณีเงินในบัญชีธนาคารถูกแฮ็กไป เงินสูญไปกว่าแสนบาท
ภัยสังคม! แม่บ้านอาคารออลซีซั่นเพลส ย่านเพลินจิต แจ้งความ สน.ลุมพินี ถูกตู้เอทีเอ็มดูดบัตรแล้วเงินหายจากบัญชีกว่า 1 แสนบาทอย่างไร้ร่องรอย ด้านตำรวจเผยเพียงสองวันมีผู้เสียหายแจ้งความในลักษณะเดียวกันกว่า 40 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 6 แสนบาท ตรวจสอบพบมีการกดเงินจากต่างประเทศ คาดแก๊งแฮกเกอร์รัสเซียอาละวาดแอบลักลอบติดเครื่องสกิมเมอร์ดูดข้อมูลบัตรจากแทบแม่เหล็กไว้ที่ตู้เอทีเอ็ม!

วันนี้ (7 พ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ สน.ลุมพินี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งวันที่ผ่านมาได้มีประชาชนจำนวนมากเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี หลังมีคนร้ายแฮกข้อมูลบัญชีธนาคาร ทำให้เงินในบัญชีสูญหายไป บางรายสูญเงินไปหลายหมื่นบาท บางรายสูญเงินไปเป็นแสนบาท

นางประภานิช ไกรมาศ อายุ 55 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนนั้นมีอาชีพเป็นแม่บ้านอยู่ในอาคารออลซีซั่นเพลส ย่านเพลินจิต มีเงินฝากในธนาคารกรุงเทพกว่า 1 แสนบาท ก่อนเกิดเหตุนั้นตนได้ยินเพื่อนที่ทำงานและพนักงานออฟฟิศหลายคนที่ทำงานอยู่ในตึกดังกล่าวได้พูดคุยกันว่า เงินในบัญชีธนาคารหายไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยความกลัวตนจึงไปเดินทางไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ภายในตึกออลซีซั่นเพลส เพียงแค่ตนสอดบัตรไป และยังไม่ได้กดรหัสบัตร ทางตู้เอทีเอ็มนั้นก็ได้ดูดบัตรเอทีเอ็มของตนเข้าไป ด้วยความตกใจตนจึงเดินทางไปสอบถามที่ธนาคารกรุงเทพ ที่อยู่ในตึก จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ทำการนำเอาข้อมูลมาให้ดูก็พบว่า เงินในบัญชีของตนนั้นได้หายไปประมาณเกือบ 5 หมื่นบาท เหลือในบัญชีเพียง 7 หมื่นบาท และมีการเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็ม จำนวน 5 ครั้ง ครั้งละ 9 พันกว่าบาท

ขณะที่ น.ส.ผกามาศ วิธีธรรม อายุ 51 ปี ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ที่อาคารออลซีซั่นเพลส เช่นเดียวกัน บริเวณอาคารดังกล่าวมีตู้เอทีเอ็มของธนาคารต่างๆ หลายสิบตู้ ขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอยู่ ส่วนตนถูกคนร้ายก่อเหตุไปนั้นโดยเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ตนผิดสังเกตจากนั้นวันอังคาร เจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ได้โทรศัพท์มาสอบถามตนว่าอยู่ที่ไหนตนตอบไปว่าอยู่ที่ประเทศไทย ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจึงขออนุญาตอายัดบัญชี เนื่องจากช่วงคืนที่ผ่านมามีการทำธุรกรรมการเงินอย่างผิดปกติ โดยกดเงินในบัญชีออกติดต่อกันถึง 3 ครั้ง ที่กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ซึ่งจากการตรวจสอบของตนพบว่าเงินในบัญชีถูกกดไปรวมทั้งสิ้น 30,000 บาท จาก 2 ธนาคาร

พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวว่า หลังจากนี้จะเรียกพนักงานธนาคารที่ดูแลเกี่ยวกับระบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารต่างๆ ตามที่ผู้เสียหายระบุมาสอบถามรายละเอียดต่อหน้าผู้เสียหาย และทางตำรวจ เพื่อหาทางป้องกันและทางช่วยเหลือผู้เสียหาย ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าคนร้ายไม่น่าจะใช้กล้องเข็มไปติดตั้งบริเวณตามตู้บริการเงินด่วน เพราะอาคารที่ผู้เสียหายไปใช้บริการเงินด่วนนั้น มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำ สำหรับตอนนี้มีการแพร่ระบาดของคนร้ายอยู่ที่ประเทศยูเครน และรัสเซีย

พ.ต.อ.ไชยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้ามาแจ้งความในลักษณะเดียวกันจำนวน 22 ราย ที่มีเงินฝากในบัญชีของธนาคารต่างๆ พื้นที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนนั้นส่วนใหญ่อยู่ในย่านสาทร เพลินจิต สุขุมวิท สำหรับวันนี้มีผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม จำนวน 18 ราย รวม 2 วัน เป็นจำนวน 40 ราย รวมค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นเงินจำนวนกว่า 600,000 บาท

เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นแก๊งชาวรัสเซียที่ลักลอบติดแถบสกิมเมอร์ ตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ โดยเมื่อผู้เสียหายสอดบัตรเอทีเอ็มเข้าไปทางตัวสกิมเมอร์ก็จะเก็บข้อมูลบัตร และส่งข้อมูลของบัตรไปยังผู้ต้องหา และเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้น่าจะมีคนรู้เห็นกับการติดตัวตัวสกิมเมอร์ เพราะการติดตั้งตัวสกิมเมอร์นั้นใช้เวลานานพอสมควร จากนี้จะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาสอบสวน และจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังว่ามีใครต้องสงสัยเข้ามาในตู้เอทีเอ็มดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าหลังจากที่ข่าวดังกล่าวแพร่ออกไปทำให้พนักงานที่ทำงานอยู่ในอาคารย่านสุขุมวิท ต่างพากันเดินทางเข้าไปที่ธนาคารที่ตนเองเปิดบัญชีไว้ เพื่อตรวจสอบยอดเงินในบัญชีว่าหายไปมากน้อยเพียงใด ขณะบรรยายกาศที่ สน.ลุมพินี มีผู้เสียหายเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สำหรับตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย หน้า สน.ลุมพินี ก็ถูกติดตัวสกิมเมอร์ด้วยเช่นกัน
ปชช. เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กรณีโดนแฮ็กข้อมูลทางบัญชีสูญเงินกว่าแสนบาท
โจรปริศนาแฮ้กข้อมูลบัญชีธนาคาร โกงเงินไปกว่าแสนบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น