คนร้ายสวมหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้าบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนจี้ชิงทองเพชรทองใบ ห้างบิ๊กซี สาขาดาวคะนอง กวาดทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 40 บาท ก่อนหลบหนีไป ตร.เร่งไล่ล่าจากภาพวงจรปิดที่จับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน
วันนี้ (17 พ.ย.) พ.ต.ท.เศวก บุญจันทร์ พนักงานสอบสวน สน.บุคคโล รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทอง "เพชรทองใบเยาวราช" บนชั้น 2 ของห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาดาวคะนอง ถ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อมกับ พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.โชคชัย งามวงศ์ ผกก.สน.บุคคโล เจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุพบพนักงานในร้านทอง และประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของกำลังอยู่ในอาการตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีน.ส.สุภาพร อุ่นเรือน อายุ 23 ปี พนักงานขายทองยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ โดยน.ส.สุภาพร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีพนักงานขายภายในร้าน 4 คน เป็นหญิง 3 คน ช่วงนั้นยังไม่มีลูกค้าเข้ามาดูทอง กระทั่งเวลา 14.00 น.ได้มีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 175 ซม.ใส่เสื้อยืดสีดำ คลุมทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตคล้ายทหาร กางเกงยีนส์สีดำ สวมหมวกแก๊ปสีขาว ใส่แว่นตาดำ สะพายกระเป๋าหนังเทียมสีดำ เดินเข้ามา ก่อนชักอาวุธปืนแบบลูกโม่ที่พกออกมาชี้ขู่พนักงานในร้าน แล้วเปิดกระเป๋ายื่นให้พวกตนช่วยกันหยิบทองใส่กระเป๋า โดยพูดเพียงสั้นๆ สำเนียงอีสานว่า “หยิบมา” คนร้ายได้สร้อยคอทองคำไป 20 เส้น น้ำหนักรวม 40 บาท ใช้เวลาในการก่อเหตุเพียง 32 วินาที ก่อนจะวิ่งลงบันไดไปขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ด้านนายพรพิพัฒน์ ระเบียบธรรม หัวหน้า รปภ.ของห้าง ให้การว่า ช่วงเวลาประมาณ 10 โมงเศษ ช่วงห้างกำลังเปิดได้ไม่นาน ตนเดินออกตรวจความเรียบร้อยอยู่บริเวณห้าง ก็พบคนร้ายซึ่งมีบุคลิกที่โดดเด่น คือ ใส่แว่นกันแดด สวมหมวกแก๊ป เข้ามาเดินอยู่ภายในห้าง แล้วผ่านไปมาหน้าร้านทองอยู่หลายครั้ง ตนเห็นพฤติกรรมแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นคนร้าย จึงบอกให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคน จับตามองชายคนดังกล่าวเป็นพิเศษ และให้ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายให้ชัดเจนที่สุด แต่คนร้ายน่าจะไหวตัวทัน จึงเดินหลบหนีไป
นายพรพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า จนกระทั่งเวลาเกือบ 14.00 น.รปภ.ชั้น 1 รายงานมาว่า พบชายคนดังกล่าวกลับเข้ามาในห้างอีกครั้ง ตอนนั้นตนเห็นว่าหน้าร้านทอง มี พ.ต.ท.ปองพล เลามีชัยเจริญ สวป.สน.บุคคโล กำลังตรวจอยู่ที่ร้านทอง และยังมีเจ้าหน้าที่สายตรวจอีกคนเดินอยู่ภายในตัวห้าง จึงเดินไปตรงจุดที่ขายรถจักรยาน ซึ่งอยู่ห่างจากร้านทองประมาณ 40 เมตร ส่วน รปภ.ที่เดินตามคนร้ายมา รายงานว่า คนร้ายกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังร้านทอง ตนจึงเดินมาที่ร้านทองเช่นกัน ปรากฏว่า เมื่อมาถึงก็ไม่พบ พ.ต.ท.ปองพล คาดว่าจะออกจากร้านไปไม่เกิน 5 นาที แต่พบคนร้ายกำลังใช้ปืนขู่ให้พนักงานขายทองหยิบทองใส่กระเป๋าให้อยู่ คนร้ายใช้เวลารวดเร็วมาก แล้ววิ่งมาทางบันไดเลื่อน ตนจึงใช้รถเข็นของ เข็นให้พุ่งชนคนร้าย หวังว่าจะให้เสียหลักล้ม แต่คนร้ายก็ทรงตัวดีไม่มีอาการเสียหลัก จากนั้นจึงควักอาวุธปืนขึ้นมายิงขู่ขึ้นฟ้า 1 นัด โดนเพดานเป็นรู แล้ววิ่งหนีลงไปชั้นล่าง ตนวิ่งตามลงไป เห็นคนร้ายขึ้นคร่อมรถ จยย.ฮอนด้ารุ่นเวฟ แบบเก่า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่จอดไว้ชั้นล่างหลบอยู่ข้างเสาใกล้กับทางเข้าห้าง แล้วก็ยังยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 1 นัด เพื่อกันคนติดตาม แล้วขี่รถออกถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน มุ่งหน้าไปทางแยกมไหศวรรย์ อย่างรวดเร็ว แต่มี จยย.รับจ้างขี่รถตามไป แต่ก็คลาดกันหวุดหวิด
ด้าน พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า รอง ผบก.น.8 กล่าวว่า คาดว่าคนร้ายรายนี้คงมาดูลาดเลาหลายรอบแล้ว มีการเตรียมการมาอย่างดี และคงคิดว่าตำรวจน่าจะไปประจำการที่กลุ่มผู้ชุมนุม แต่เมื่อเห็นตำรวจมาตรวจร้านทอง จึงถอยไปตั้งหลัก ก่อนจะอาศัยช่วงตำรวจคล้อยหลังไปไม่นานลงมือก่อเหตุ ซึ่งภาพวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน โชคดีที่คนร้ายไม่ยิงปืนเข้าใส่นายพรพิพัฒน์ และช่วงนั้นมีคนเดินพลุกพล่าน อาจเกิดความสูญเสียมากกว่านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด