รอง ผบช.น.เผยถึงกรณีศาลโลกตัดสินเขาพระวิหาร ชี้ไทยไม่เสียดินแดนให้กัมพูชา พร้อมวอนประชาชนเลิกการชุมนุมต้านนินโทษฯ อ้างวุฒิสภาคว่ำร่างแล้ว เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง สั่ง ตร.เดินเกมรุกเอาผิด “เทพเทือก” ยุยงปลุกปั่นม็อบโค่นรัฐบาล
เวลา 14.00 น.วันนี้ (13 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.แถลงกรณีชุมนุมว่า ทางเจ้าหน้าที่ขอชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมให้ทราบ 2 เรื่อง คือ 1.ขณะนี้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลกได้มีคำตัดสินเกี่ยวกับกรณีเขาพระวิหาร ว่า ประเทศไทยไม่ได้เสียดินแดนให้แก่ประเทศกัมพูชา ตามที่ประเทศกัมพูชายื่นฟ้องแต่อย่างใด และเรื่องที่ 2 กรณีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น วุฒิสภาได้มีมติไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้ว ดังนั้นประเด็นที่กลุ่มผู้ชุมนุมตั้งเงื่อนไขในการชุมนุมทางการเมือง ได้ยุติไปหมดทุกประเด็นแล้วจึงขอวอนให้ประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุม เลิกการชุมนุม และแยกย้ายกลับบ้านเพื่อความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ สน.สำราญราษฎร์ ได้มีการดำเนินคดีไปแล้วนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานฝ่ายผู้กล่าวหาเพื่อจะได้มีการออกหมายเรียกนายสุเทพมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังประกาศว่าจะทำการตัดน้ำตัดไฟ รวมถึงการนัดหยุดงาน โดยอ้างว่าเป็นการแสดงอารยะขัดขืนนั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และหากประชาชนผู้ใดที่เข้าร่วมกระทำการดังกล่าวด้วยก็จะผิดกฎหมาย และถือว่ามีความผิดเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการแถลงข่าว พล.ต.ต.อดุลย์ ได้แจกเอกสารให้สื่อมวลชนทราบเพื่อดำเนินการความผิดที่ตำรวจจะดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ โดยเนื้อหาในเอกสารระบุ มี 2 มาตรา คือ มาตรา116 ระบุว่าผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระ ทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และมาตรา 117 ระบุว่า ผู้ใดยุยงหรือจัดให้เกิดการร่วมหยุดงานเพื่อบังคับรัฐบาล หรือเพื่อข่มขู่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 1.4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับประชาชนผู้ที่ทราบความมุ่งหมายดังกล่าวแล้วยังเข้ามามีส่วน หรือเข้าช่วยในการร่วมกันหยุดงาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ