ศอ.รส.ชี้ “สุเทพ” ชวน ปชช.อารยะขัดขืน ผิด กม.อาญา

ศอ.รส.ชี้ “สุเทพ” ชวนประชาชนทำอารยะขัดขืนผิดกฎหมายอาญา ตร.เข้มจุดตรวจป้องกันผู้ไม่หวังดีเข้ามาสร้างสถานการณ์ในที่ชุมนุม ล่าสุด แจ้งความดำเนินคดี “สุเทพ” แล้ว

วันนี้ (12 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส.เปิดเผยถึงสถานการณ์การชุมนุม ว่า ที่ประชุม ศอ.รส.ได้วิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์การชุมนุมตามทฤษฎีการชุมนุม ซึ่งมี 4 ขั้นตอน พบว่าขณะนี้ได้บรรลุขั้นแรกในการระดมมวลชนทุกวิถีทางโดยใช้เงื่อนไข คัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และคำตัดสินศาลโลกกรณีปราสาทพระวิหาร ขณะนี้ผู้ชุมนุมยกระดับสู่ขั้นที่ 2 คือการสร้างความไร้ระเบียบ ปลุกเร้าให้ปฏิเสธอำนาจรัฐโดยการเชิญชวนให้ประชาชนทำอารยะขัดขืน และกำลังเข้าสู่ขั้นที่ 3 คือสร้างความวุ่นวาย ปะทะ จลาจล เพื่อเป้าหมายขั้นสุดท้ายคือ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ต้องการ ซึ่ง ศอ.รส.ได้รายงานสถานการณ์ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับทราบโดยตลอด ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา ศอ.รส.ได้จับกุมผู้กระทำผิดลักลอบนำดอกไม้เพลิง และพกพาอาวุธมีดดาบ และขวาน จำนวน 3 เล่ม ในพื้นที่ชุมนุม พร้อมกับเน้นย้ำการตั้งจุดตรวจเพื่อเป็นการป้องกันมิให้ผู้ไม่หวังดีลักลอบนำอาวุธเข้ามาก่อเหตุ สร้างสถานการณ์ความวุ่นวายอีก

ส่วนกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำขึ้นเวทีปราศัยเรียกร้องให้ประชาชนผู้ร่วมชุมนุมร่วมต่อสู้จนกว่าจะประสบชัยชนะ เชิญชวนประชาชนทำอารยะขัดขืน โดยหยุดงาน ชะลอการชำระภาษีพร้อมกันทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย.นี้ โฆษก ศอ.รส.กล่าวว่า กรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฐานกระทำให้เกิดปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และ ป.อาญา และมาตรา 117 ฐานยุยงหรือจัดให้เกิดการหยุดงาน หรือร่วมกันไม่ยอมค้าขายหรือติดต่อธุรกิจ เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในบ้านเมือง ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งล่าสุดมีการแจ้งความดำเนินคดีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำการชุมนุมแล้วที่ สน.สำราญราษฎร์ และที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ