บช.น.คาดม็อบม้วนเสื่อ รบ.ถอนร่างนิรโทษ เน้นเจรจาไม่สลาย

บช.น.แถลงสรุปสถานการณ์ม็อบ ยันเน้นเจรจาเป็นหลัก แต่ยังประเมินผู้ชุมนุมน้อยกว่าความเป็นจริง คาดหวังผู้ชุมนุมจะยอมสลายตัวไปเองหลัง รบ.ประกาศถอนร่างนิรโทษกรรม

วันนี้ (7 พ.ย) เมื่อเวลา 17.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.ฐานะโฆษก บช.น.เปิดเผยกรณีสถานการณ์ชุมนุมเพื่อต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมตามจุดต่างๆ ว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยังคงรวมตัวอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีจำนวนผู้ชุมนุมประมาณ 1,200 คน และกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ยังคงรวมตัวอยู่บริเวณสะพานผ่านฟ้า มีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 950 คน รวมถึงยังมีกลุ่มประชาคมและศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ต้านกฎหมายนิรโทษกรรมประมาณ 4,500 คน ได้รวมตัวกันบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แล้วเดินทางมาสมทบกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) จากนั้นได้ยื่นหนังสือให้ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 รับหนังสือเมื่อเวลาประมาณ 13.05 น.จากนั้นจึงได้แยกย้ายเดินทางกลับ

พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บนั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.ระหว่างที่กลุ่ม คปท.เคลื่อนขบวนมายังสะพานมัฆวาน ขณะที่ ด.ต.จำเนียน หงส์ไทย ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.สส.บก.น.6 กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณสะพานมัฆวานหน้าตึกสหประชาชาติ และถูกทำร้ายเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บและพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ ทาง บช.น.จึงขอประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ซึ่งจากการกรณีดังกล่าวแสดงว่ากลุ่มคปท.เป็นการชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 กำหนดไว้ และอาจทำให้สถานการณ์การชุมนุมเลวร้ายกว่าเดิม ทั้งนี้ กรณีทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ทาง สน.นางเลิ้ง จะดำเนินสืบสวนสอบสวนผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป

“การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเน้นเจรจาเป็นหลัก เบื้องต้นหากมีการละเมิดกฎหมายก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมาย ถ้ามีสถานการณ์ที่ยกระดับก็จะดำเนินตามในขั้นตอนต่างๆ ต่อไป ซึ่งขณะนี้ทางฝ่ายกฎหมาย โดยมีพนักงานสืบสวนทั้งหมดกว่า 100 นาย ได้ทำการรวบรวมหลักฐานทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว รวมทั้งเก็บข้อมูลของผู้ที่ขึ้นพูดปราศรัยเวทีต่างๆ ได้มีการบันทึกเทปไว้ทั้งหมดเพื่อรวบรวมเป็นหลักฐานดำเนินคดีก็ผู้ที่กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป” โฆษก บช.น.กล่าว

เมื่อถามการข่าวว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเพิ่มขึ้นมากเท่าไร่นั้น พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ในสภาวะปกติ ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คาดว่าจำนวนตำรวจน่าจะใกล้เคียงกัน ช่วงประมาณ 21.00 น.วันที่ 6 พ.ย.นั้น มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 8,500 คน กระทั่งขึ้นสูงสุดถึงประมาณ 10,000 คน

เมื่อถามว่า การชุมนุมจะยืดเยื้อไปหลังวันที่ 11 พ.ย.หรือไม่ จากการประเมินสถานการณ์แล้ว จากข้อมูลที่ได้มีการพูดคุยและการรับฟังคำปราศรัยบนเวทีการชุมนุมว่า หลังจากวันที่ 11 พ.ย.จะเลิกการชุมนุม คิดว่าไม่น่าจะมีการชุมนุมยืดเยื้อแต่อย่างใด ประกอบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีประกาศมติถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทั้ง 6 ฉบับ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สถานการณ์น่าจะเกิดผลดีมากยิ่งขึ้น