จนท.ตร.เตรียมความพร้อมตั้งรับม็อบต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม คาดมีมวลชนร่วมการชุมนุมกว่า 1 หมื่นคน หวั่นหากรัฐบาลไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม การชุมนุมอาจยืดเยื้อ และอาจมีการยกระดับการชุมนุมต่อไปอีก
จนท.ตร.เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง เพื่อคัดค้านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ซึ่งจะมีการชุมนุมกันวันนี้ที่บริเวณสถานีรถไฟสามเสน ซึ่ง จนท.ตร.มีการวิเคราะห์ พท.การชุมนุมบริเวณถนนเลียบทางรถไฟสถานีสามเสน ติดกับแฟลตสวัสดิการกองทัพบก (ใกล้พรรคประชาธิปัตย์ ) แบ่งเป็น 4 ส่วน มีรายละเอียดดังนี้
พื้นที่บริเวณหน้าร้านชูจันทร์-แยกไฟแดงแ ตัดข้ามทางรถไฟสามเสน มีพื้นที่กว้าง 6,000 ตร.ม., จากแยกไฟแดงตัดข้ามทางรถไฟสามเสน-หลังสถานีรถไฟสามเสน มีพื้นที่กว้าง 6,000 ตร.ม., บริเวณร้านชูจันทร์-พรรคประชาธิปัตย์-แยกไฟแดงตัดถนนพระราม 6 มีพื้นที่กว้าง 2,250 ตร.ม. และบริเวณร้านชูจันทร์-เลียบทางรถไฟ-ด้านหลังโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย-แยกไฟแดง มีพื้นที่กว้าง 5,400 ตร.ม. ซึ่งพื้นที่ชุมนุมแต่ละจุดสามารถรองรับมวลชนได้จุดละประมาณ 12,000-15,000 คน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่
โดยเวทีที่จะใช้ปราศรัยในการชุมนุมครั้งนี้ เป็นเวทีถาวรขนาดกว้าง 5x12 เมตร โดยเวทีจะตั้งหน้าร้านชูจันทร์ และหันหน้าเวทีไปทางสถานีรถไฟสามเสน ซึ่งเวทีเป็นของนายสมควร โอบอ้อม ส.ส.เขต 1 จ.นครสวรรค์ และมีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.เขต 26 กรุงเทพมหานคร เป็นผู้ควบคุมดูแลเวที ตลอดการชุมนุมของมวลชนในครั้งนี้จะมีกลุ่มการ์ดรักษาความปลอดภัยที่จะเข้ามาดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม คือ กลุ่มกระเบนธง, กลุ่มจงอางชล ซึ่งเป็นกลุ่มการ์ด ที่ ส.ส.ในกรุงเทพฯ ให้การสนับสนุนอยู่
คาดว่าในวันนี้จะมีมวลชนที่จะเข้ามาร่วมชุมนุมประมาณ 8,000-10,000 คน โดยแกนนำหลักที่ร่วมเคลื่อนไหวในครั้งนี้ คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายถาวร เสนเนียม นายกรณ์ จาติกวณิช นายอิสระ สมชัย นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และ ส.ส.ของพรรคที่ร่วมเคลื่อนไหวในเวทีผ่าความจริง โดยทิศทาง และแนวทางการเคลื่อนไหว ในช่วงวันที่ 31 ตค.-2 พ.ย.นี้ คือจ ะมีการระดมมวลชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมชุมนุมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อสร้างภาพสะท้อน เพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปเห็นว่า มีประชาชนเป็นจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อันเป็นเงื่อนไขที่สำคัญในการสร้างกระแสสังคมให้ทุกภาคส่วนบีบบังคับ กดดันให้รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ออกไปจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และหากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผ่านการพิจารณาลงมติในวาระที่ 3 คาดว่าจะมีการชุมนุมยือเยื้อเพื่อสร้างกระแสความกดดันให้แก่รัฐบาลต่อไป
ทั้งนี้ แนวโน้มและสถานการณ์ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะได้บรรจุร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการเข้าสู่สภาเพื่อพิจารณาในวาระที่ 2 ในวันนี้ (31 ต.ค.) ซึ่งเป็นประเด็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้กลุ่มพลังมวลชนที่เป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้หยิบยกนำประเด็นเรื่องนี้เพื่อระดมมวลชนให้เข้าร่วมชุมนุม และอาจยกระดับการชุมนุมขึ้นไปอีก กอปรกับพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศเชิญชวนประชาชนให้เข้าร่วมชุมนุมใหญ่เพื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมดังกล่าวตั้งแต่วันนี้ (31 ต.ค.) ในเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป และจัดตั้งเวทีปราศรัยบริเวณลานเลียบทางรถไฟสามเสน ถนนเศรษฐศิริ กรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นผลให้มีการชุมนุมที่ยืดเยื้อ หากรัฐบาลไม่ยอมถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ออกไปจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
ขณะเดียวกัน ก็มีการสร้างกระแสข่าวเกี่ยวกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคได้ลาออกจากกรรมการบริหารพรรคเรียบร้อยแล้ว เพื่อมาเป็นแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ด้วยเหตุและผลดังกล่าวจะส่งผลให้กลุ่มแนวร่วมเครือข่ายต่างๆ ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันสร้างข่าวลือ และเตรียมความพร้อมของมวลชนที่จะชุมนุมเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านเช่นเดียวกัน หากกระแสสังคมตอบรับเป็นอย่างดี กลุ่มแนวร่วมเครือข่ายอาจมีการพิจารณายกระดับการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลต่อไป
ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. เปิดเผยผลการประชุม ศอ.รส.ในช่วงบ่าย โดยมี พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.เป็นประธานในการประชุม โดยกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีตำรวจรถไฟพบวัตถุต้องสงสัยบนรางรถไฟ ช่วงสถานีรถไฟชะมวง-บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใกล้กับพื้นที่การชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ว่า ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หรือ EOD ของ บก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ และกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 ได้เข้าเก็บกู้และทำลายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พบวัตถุดังกล่าวเป็นแบตเตอรี่ จำนวน 2 ก้อน ไม่ใช่วัตถุระเบิดแต่อย่างใด ขณะที่ใกล้กันยังพบกระดาษเขียนข้อความทิ้งไว้ นอกจากนี้ รับแจ้งจาก สภ.บางสะพาน ว่า ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม อดีตนายทหารนอกราชการ ได้เข้ามอบตัวกรณีนำมวลชนไปชุมนุมเรียกร้องปัญหาราคายางพาราในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยไม่ขอรับการประกันตัว เพื่อต้องการพิสูจน์ว่าไม่ได้กระทำผิด
ส่วนการชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม บริเวณสถานีรถไฟสามเสน พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ล่าสุด จากการตรวจสอบมีมวลชนทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมอยู่ในพื้นที่ โดยมี ส.ส.และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ทยอยขึ้นปราศรัยบนเวทีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการปราศรัยจนถึงเวลา 24.00 น. จากการประเมินพบว่า การชุมนุมจะแบ่งเป็น 2 ห้วงเวลา คือ ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.-2 พ.ย.จะระดมมวลชนเข้ามาเพื่อสร้างเงื่อนไข และหลังจากวันที่ 2 พ.ย. ทางแกนนำจะดูผลการประชุมสภาเกี่ยวกับการรับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อตัดสินใจวางแนวทางโดยยุทธวิธีจะมีการปรับเปลี่ยน ขึ้นอยู่กับมวลชนเป็นหลัก นอกจากนี้ การข่าวพบว่า มีการชุมนุมในพื้นที่ 5 จังหวัด ประกอบด้วย จ.เลย สกลนคร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และตรัง
โฆษก ศอ.รส.กล่าวว่า สำหรับมาตรการป้องกันในพื้นที่ชุมนุมนั้น ยังคงเน้นจุดตรวจเพื่อคัดกรองบุคคลป้องกันการนำอาวุธสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ เนื่องจากพบว่า พื้นที่การชุมนุมมีเส้นทางเข้าออก และเป็นพื้นที่เปิด ง่ายต่อการนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาได้ถึง 6 เส้นทาง อีกทั้งมีร้านค้าและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ด้วย ซึ่งได้กำชับให้ตำรวจนครบาลจัดทำแผนเผชิญเหตุให้พร้อม 24 ชม.