รอง ผบ.ตร.เดินหน้าหาหลักฐานเหตุเพลิงไหม้ รพ.ตำรวจ แจงจับภาพชายต้องสงสัย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ เพื่อความชัดเจน พร้อมทั้งระบุค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ห้องประชุม พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษามหาราชินี รพ.ตำรวจ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ทีมพิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากล้องวงจรปิด (CCTV) จับภาพชายสวมหมวกไอ้โม่งไว้ได้ก่อนเกิดเหตุนั้น ก็จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามมองว่าหากคนร้ายต้องการวางเพลิงจริงนั้น ส่วนตัวยังมองไม่เห็นจุดประสงค์ว่าเหตุใดต้องวางเพลิงในห้องประชุมดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ประสิทธิ์ ทำดี รอง ผบช.สพฐ.กล่าวว่า เบื้องต้นพบจุดที่คาดว่าจะเป็นต้นเพลิง 2 จุด คือ บริเวณชั้นล่างภายในห้องประชุม และบนฝ้าเพดานห้อง ส่วนจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ ซึ่งขอเวลาตรวจสอบ ส่วนกล้องวงจรปิดจับภาพชายต้องสงสัยได้นั้น ส่วนตัวยังไม่เห็น แต่ยืนยันว่าหากมีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พฐ.จะนำมาตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประเมินว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
เมื่อเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รรท.ผบก.กองพิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อมด้วย พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.สัญชัย มาตรคำจันทร์ สว.สส.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.จักริน พันธ์ทอง พงส.ผนพ.สน.ปทุมวัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เจ้าหน้าที่สำนักการโยธา สำนักงานเขตปทุมวัน และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง ร่วมกันเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้เริ่มทำการบันทึกภาพ และเก็บร่อยรอยภายในห้องประชุม พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ และห้องเก็บของด้านหลังที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมทั้งทำการตรวจสอบแบบแปลนของพื้นที่เกิดเหตุทั้งหมด ก่อนรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานหลังจากการตรวจสอบ
พ.ต.อ.ธวัชชัย กล่าวว่า ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานจากที่เกิดเหตุทั้งหมด เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่พบว่าภายในห้องประชุมดังกล่าวบริเวณบนเวทีฝั่งซ้ายได้รับความเสียหายมากที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรกันแน่ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ต้องขอเวลาทำงานก่อนเพื่อที่จะสามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงได้ต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.พนม กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) และเจ้าหน้าที่การโยธา จากสำนักงานเขตปทุมวัน และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่ของ รพ.ตำรวจ เพื่อขอภาพถ่ายที่เกิดเหตุก่อนหน้านี้ รวมทั้งแบบแปลนแผงไฟภายในห้องประชุม เพื่อที่จะระบุว่าบนเวทีแต่ละจุดมีการวางแผงไฟ หรือการวางสิ่งของไว้ที่จุดใดบ้าง เนื่องจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบนเวทีมีความเสียหายมากที่สุด และได้ทำเรื่องประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณละแวกที่เกิดเหตุแต่ต้องล่าช้า เนื่องจากระบบไฟภายในตัวอาคารยังไม่สมบูรณ์ เพื่อนำมารวบรวมไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ต้องรอผลจากทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อนสรุปสาเหตุที่แท้จริงของเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้