ผอ.ป.ป.ท.เขต 1 จี้อุตสาหกรรมจังหวัดประสาน 2 บริษัทเจ้าของกองแร่บนเขาทับควาย ให้มาขนแร่ออกจากพื้นที่ ระบุป้องกันผู้มาลักลอบแอบอ้างว่ามาขนแร่กองที่ประมูล หากผลตรวจพบเป็นแร่เหล็กจริง ดีเอสไอ จะรับเป็นคดีพิเศษ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ นำโดย นายพงศ์วริศภณ ปิยะชน เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส สำนักงานจัดการป่าไม้ที่ 5 (สระบุรี) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำโดย พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ดีเอสไอ พ.ต.ท.ปรีชา มีใจดี รองผู้บัญชาการสำนักอาญาพิเศษ 3 พ.ต.ท.อานนท์ อุนทริจันทร์ ผู้อำนวยการส่วน 1 สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำ สภ.โคกสำโรง ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาลักลอบแผ้วถางพื้นที่ป่าไม้และขุดตักแร่เหล็กในพื้นที่เขาทับควาย ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ทั้งหมด 3 ราย พร้อมด้วยของกลาง ในข้อหาร่วมกันก่นสร้าง แผ้วถางป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าฯ ตามมาตรา 54 แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โคกสำโรง เพื่อดำเนินคดีต่อไป
คืบหน้าวันนี้ (25 ต.ค.) พ.ต.ท.ชัยวิณ เล่มาทอง ผอ.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เขต 1 เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ทาง ป.ป.ท.ได้เร่งให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี ประสานงานกับ 2 บริษัทเจ้าของแร่ที่ประมูลได้ในพื้นที่ดังกล่าวเข้าไปขนแร่ที่ประมูลให้หมด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแร่โดยแอบอ้างว่ามาขนในส่วนที่มีการประมูลไปแล้ว ทั้งนี้ยังมีการประสานไปยังสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรีให้แร่ดังกล่าวว่าไปตรวจสอบว่าเป็นแร่เหล็กจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าผลตรวจพิสูจน์ออกมาว่าเป็นแร่เหล็ก ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็จะรับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ป.ป.ท.เขต 1 จะเฝ้าดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมป่า เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ว่าจะมีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อหรือไม่