ที่ประชุมกระทรวงยุติธรรมมีความเห็นให้ดีเอสไอร่วมกับ ตร.ญี่ปุ่น และพนักงานอัยการดำเนินการรื้อฟื้นคดีนักท่องเที่ยวสาวยุ่นถูกฆาตกรรมเมื่อปี 50 ที่ จ.สุโขทัย ขึ้นมาใหม่ หลัง ตร.เป่าคดีทิ้ง
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม นายสุชน ชาลีเครือ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษเฉพาะด้าน (ระดับ 9) ดีเอสไอ ร่วมแถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมเพื่อติดตามการดำเนินงานถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นถูกฆาตกรรมที่ จ.สุโขทัย ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ กก 0210/3009 ลงวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอความอนุเคราะห์ดีเอสไอให้ช่วยดำเนินการกรณี น.ส.โทโมโกะ คาวาชิตะ (Miss Tomoko Kawashita) นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นถูกฆาตกรรมที่ จ.สุโขทัย เมื่อปี พ.ศ. 2550
ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย ระบุว่าได้ดำเนินการสืบสวนมาโดยตลอดแต่ไม่พบหลักฐานว่าผู้ใดกระทำความผิด และเสนองดการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2552 ต่อมาอัยการ จ.สุโขทัยมีคำสั่งให้งดการสอบสวน หากต่อมารู้ตัวผู้กระทำผิดให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนต่อไปได้ ทั้งนี้ในสำนวนการสอบสวนพบหลักฐานสนับสนุนว่ามีนักท่องเที่ยวชายชาวญี่ปุ่น 1 รายเป็นผู้ที่อยู่บริเวณสถานที่เกิดเหตุ และอยู่ในห้วงเวลาใกล้เคียงกับเหตุฆาตกรรม แต่ยังไม่ได้มีการตรวจ DNA เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับ DNA ที่ตรวจเก็บได้จากเสื้อผ้าของผู้ตายซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดีนี้
นายธาริตกล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทร์ขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ พร้อมด้วยนายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผอ.ส่วนคดีความมั่นคง 1 นำคณะนายทาอิชิ หัวหน้าตำรวจประจำสถานทูตญี่ปุ่น เดินทางไป จ.สุโขทัย ประชุมร่วมกับคณะพนักงานสอบสวน DSI และ พล.ต.ต.รังสรรค์ คชไกร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัย ในฐานะที่ปรึกษาคดีพิเศษ และเข้าพื้นที่เกิดเหตุ บริเวณวัดสะพานหิน อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โดยที่ประชุมเห็นว่า 1. ทางพนักงานสอบสวนเห็นด้วยในหลักการที่จะนำหลักฐานเสื้อผ้าของ น.ส.โทโมโกะไปตรวจหา DNA ของผู้ต้องสงสัยอีกครั้งที่ประเทศญี่ปุ่น โดยให้เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เดินทางไปสังเกตการณ์ด้วยเพื่อประโยชน์ในนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานในประเทศไทย
2. การตรวจหา DNA ตามข้อ 1 จะนำไปใช้ประโยชน์ประกอบการจัดทำเอกสารยื่นคำร้องต่อศาลญี่ปุ่น เพื่ออ้างว่าจะนำไปใช้ประโยชน์ในการสืบสวนผู้ต้องสงสัย และร้องขอต่อศาลญี่ปุ่น ให้มีการตรวจ DNA ของชายชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในช่วงเวลา สถานที่เกิดเหตุ ตามที่พยานได้ให้การไว้ สำหรับประเด็นนี้ ไม่ใช่ข้อสรุปว่า ชายชาวญี่ปุ่นเป็นผู้ต้องหา แต่เพื่อตัดประเด็นความสงสัยในกรณีนี้ 3. ตำรวจญี่ปุ่นจะประสานความร่วมมือกับ DSI ในการประสานงานกับทางญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ 4. ในพื้นที่ จ.สุโขทัย ทางตำรวจภูธรจังหวัดในฐานะที่ปรึกษาคดีพิเศษในคดีนี้จะยังคงทำการสืบสวนร่วมกับ DSI อย่างต่อเนื่อง และจะประชุมความคืบหน้าในการสืบสวนทุกเดือน และในวันที่ 25 ต.ค.นี้จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างคณะพนักงานสอบสวน DSI นำโดยนายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผอ.ส่วนคดีความมั่นคง 1 ร่วมกับพนักงานอัยการที่สอบสวนร่วมในคดีนี้ นายทาอิชิ หัวหน้าตำรวจญี่ปุ่นประจำสถานทูตญี่ปุ่น และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ทำการตรวจหา DNA จากเสื้อผ้าของคุณโทโมโกะ ในประเด็นเกี่ยวกับการนำพยานหลักฐานเสื้อผ้าของคุณโทโมโกะไปตรวจหา DNA ที่ประเทศญี่ปุ่นต่อไป
