รองนายกฯ เผย “ยิ่งลักษณ์” ส่ง “สุภรณ์” รับข้อเรียกร้องชาวสวนยาง สับ ส.ส.ปชป.จ่อนำปิดถนนสร้างความเดือดร้อน กุม็อบดื่มแอลกอฮอล์ด้วย บอกครั้งที่แล้วตำรวจไม่ได้ปะทะใคร แค่ไปดูจราจรเฉยๆ โวยตำรวจเป็นแพะ หินสักก้อนก็ยังไม่ปา ถามชาวบ้านเจ็บอะไร - เผยทูตยุ่นตามคดีฆ่าพลเมือง
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมปิดถนนของกลุ่มชาวสวนยางพาราและชาวสวนปาล์มที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่านายกฯ มอบหมายให้นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ลงไปรับข้อเรียกร้องแล้ว หลังจากนั้นจะนำข้อเรียกร้องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางแห่งชาติ (กนย.) ส่วนที่ส.ส.ภาคใต้พรรคประชาธิปัตย์ระบุจะนำมวลชนขึ้นมา กทม.ในวันที่ 3 ก.ย.นั้น คิดว่าคงเป็นดุลพินิจของ ส.ส. เพราะท่านเป็นผู้แทนพี่น้องชาวจังหวัดทางภาคใต้คงจะพิจารณาว่าควรจะดำเนินการอย่างไร แต่ขณะนี้ข้อเท็จจริงประการหนึ่งที่เราพบ คือ ถนนหนทางการจราจรใช้ไม่ได้ สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องที่อยู่ทางภาคใต้ รัฐบาลมีความห่วงใย หากเป็นไปได้อยากให้ ส.ส.มีการพูดคุยบ้าง ไม่ใช่รัฐบาลไม่รับพิจารณาเลย แต่ข้อเรียกร้องต่างๆ ต้องมีความชัดเจนและมีความเป็นไปได้ถึงจะนำเข้าสู่ที่ประชุม กนย. ทั้งนี้ การที่เขาประกาศจะมาชุมนุมทั่วประเทศในวันที่ 3 ก.ย.นั้นเราได้มีการติดตาม แต่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้ชุมนุมเอง ถ้าชุมนุมกันมากๆ เกิดผสมกับแอลกอฮอล์เข้าด้วยจะยิ่งไปกันใหญ่ จึงขอฝากไปถึงพี่น้องประชาชนด้วย
พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับเส้นทางการสัญจรไปมาในภาคใต้ ขณะนี้เท่าที่ศึกษาดูยังมีทางเบี่ยงอยู่ แต่อาจจะใช้ระยะทางเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ฉะนั้น จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่รัฐบาลได้ทำให้อยู่ขณะนี้ ขอเรียนว่าเจ้าหน้าที่เราไม่อยากไปเผชิญหน้า แต่เราเป็นห่วงพี่น้องประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพราะการสัญจรไปมาทำไม่ได้ตรงนี้จะทำอย่างไร ตนคิดว่าเป็นการกระทำที่อาจจะเกินเลยกรอบของกฎหมายไปแล้ว ส่วนการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปะทะกับใครเลย มีแต่ไปดูความเรียบร้อยเพื่อให้การจราจรไปได้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนเท่านั้นเอง ทราบว่าอีกกลุ่มหนึ่งจะไม่เข้าใจ พอเห็นตำรวจจึงอาจจะมีความรู้สึกอยู่ในใจแล้วว่าจะไปปราบปรามเขาหรือไม่ แต่ไม่ใช่เพราะตำรวจไปเพื่อจะดูแลเรื่องการจราจรและความปลอดภัย เพราะกลัวมีมือที่สามจะไปแทรกซ้อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับการชุมนุมปิดถนน รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอย่างไร พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า เป็นดุลพินิจของผู้นำม็อบว่าจะใช้วิธีการและมาตรการไหน ควรจะรู้ว่าอะไรที่กระทบต่อสิทธิของพี่น้องประชาชนโดยส่วนรวม แต่การปิดถนนแบบเด็ดขาดโดยที่รถเคลื่อนไม่ได้เลยคิดว่าคงไม่น่าจะทำ เมื่อถามว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวให้เหตุการณ์บานปลายหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ทางตำรวจเราไม่เป็นน้ำผึ้งด้วยหรอก เราดูแลในกรอบของกฎหมาย ตนกำชับไว้แล้วไม่มีการใช้อาวุธ และตำรวจไม่มีอาวุธเลย ก้อนหินสักก้อนก็ไม่เคยปา มีแต่เราเอาศีรษะคอยรับก้อนหิน หนังสติ๊ก มีดและไม้อะไรทำนองนั้น แต่ขณะนี้ตำรวจเรากลายเป็นแพะรับบาป บาดเจ็บแล้ว 46 คน พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
เมื่อถามว่า ทาง ส.ส.ภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้มีการชดเชยเยียวยาผู้ชุมุนุมที่ได้รับบาดเจ็บ รองนายกฯ กล่าวว่า “ประชาชนได้รับความบาดเจ็บอะไร เพราะตำรวจเราไม่ได้มีอาวุธเลย มีดไม้เราไม่มี มีแต่โล่กับกระบองคอยป้องกันก้อนหิน คอยป้องกันมีดไม้เท่านั้นเอง”
รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยเข้าพบว่า มีการหารือกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องภาคใต้และคดีที่ค้างคากันอยู่ เช่น คดีช่างภาพญี่ปุ่นเสียชีวิตในเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อปี 2553 และกรณีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเสียชีวิตที่สุโขทัย เรากำลังดำเนินการคลี่คลายให้อยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ญี่ปุ่นเป็นห่วงการเมืองในไทยที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจหรือไม่ พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า เขาสอบถามบ้างเป็นธรรมดา ตนได้อธิบายไปแล้วว่าไม่น่าห่วงใยอะไร