xs
xsm
sm
md
lg

สั่ง“นายพล”เข้าเวรเฝ้ายาม อย่าให้เป็นแค่ “ไฟไหม้ฟาง”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.
สน.พระอาทิตย์/สามยอด

การปรับปรุงการทำงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่พล.ต.อ.อดุลย์แสงสิงแก้ว แม่ทัพใหญ่ กำลังดำเนินการในขวบปีที่ 2 บนเก้าอี้ผู้นำสีกากี

ทั้งการจัด“พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” ระดับ รองผบ.ตร.(รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ) จเรตำรวจแห่งชาติและระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.(ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.)เข้าเวรอำนวยการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

หรือล่าสุดให้นายตำรวจระดับผบก.(ผู้บังคับการ) ที่มีที่ตั้งหน่วยอยู่ภายในรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดเวรลงมาเคารพธงชาติช่วงเช้า

ถือเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ที่“อดุลย์” ต้องการปรับให้ “สำนักปทุมวัน”เป็น “เฮดออฟฟิศ”ศูนย์ปฏิบัติการบริหารงานตำรวจทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ

แนวทางการปฏิบัติงานในการเข้าเวรศูนย์ปฏิบัติการสตช. มีหน้าที่ช่วยเหลือผู้บังคับบัญชา ติดตามสถานการณ์ และการปฏิบัติในทุกภารกิจของ สตช. ทั้งสถาน การณ์ปกติและสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่วนการเข้าเวรอำนวยการประจำสตช. จะรับผิดชอบดูแลระบบสาธารณูปโภค ความสะอาด การรักษาความปลอดภัยและการจราจรภายในบริเวณ สตช.

โดยผู้บังคับบัญชาระดับรองผบ.ตร. หรือจเรตำรวจแห่งชาติ และผู้ช่วยผบ.ตร.ที่เข้าเวร.ในการบริหารจัดการศูนย์ปฏิบัติการ และเวรอำนวยการต้องเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 08.00-09.00 น.ของวันรุ่งขึ้นซึ่งตำรวจระดับพล.ต.อ.ไล่เรียงเข้าเวรกันแล้วตั้งแต่วันที่ 1ตุลาคมที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับนายตำรวจระดับผู้บังคับการ ยศพล.ต.ต. ที่มีที่ตั้งหน่วยอยู่ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ต้องจัดเวรลงมาเข้าแถวเคารพธงชาติร่วมกับผบ.หมู่ในสังกัดจำนวน 20 นายและตำรวจสันติบาลที่เข้าเวรรักษาการณ์ในทุกเช้า

แม้จะดูเป็นเรื่องแปลกใหม่ในแวดวงสีกากีจนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบทำนองเป็นการนำนายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร. ผู้ช่วยผบ.ตร. ยศพล.ต.อ. พล.ต.ท. มาทำหน้าที่เหมือนร้อยเวรกองรักษาการณ และนำตำรวจระดับผู้การฯ ยศนายพล มายื่นตากแดดเข้าแถวเคารพธงชาติเหมือนนักเรียน

แต่เหตุผลที่ “บิ๊กอู๋”ชี้แจงไว้ควบคู่ในคำสั่งการจัดตำรวจผู้ใหญ่ลงมาเข้าเวรงานอำนวยการและงานศปก.ตร.ที่ว่า “เพื่อให้การปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการสตช.และเวรอำนวยการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ ต้องมีการบูรณาการในการปฏิบัติงานร่วมกันตลอดจนเพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้านขับเคลื่อนการปฏิบัติให้สอดคล้องกับนโยบาย”

หรือการจัดเวรระดับผู้บังคับการ ลงมาเข้าแถวเคารพธงชาติช่วงเช้าว่า “เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างให้ข้าราชการตำรวจมีค่านิยมที่ปกป้องเทิดทูนและจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์”

ถือเป็นวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติงานที่น่าจะทำให้สำนักงาตำรวจแห่งชาติปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหากการปฏิบัติทำได้จริงตรงตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้

เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกระทบต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหมือนผบ.ตร.จะต้องรับภาระในการแก้ปัญหาแต่เพียงผู้เดียว รองผบ.ตร.หรือผู้ช่วยผบ.ตร.ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลแบ่งงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบต่างก็รักษาฐานที่มั่นตัวเองไม่ให้บกพร่องเท่านั้นไม่ได้ออกมาปฏิบัติงานในเชิงรุกอย่างชัดเจน

จนบางครั้งในหลายยุคหลายสมัย“ผบ.ตร.”เหมือนถูกโดดเดี่ยวในการทำงาน

นอกจากนี้การปฏิบัติงานของ ศปก.ตร.ที่พล.ต.อ.อดุลย์ใช้เป็นหัวใจในการบริหารงานตำรวจทั่วประเทศก็เกิดปัญหาการประสานงานติดต่อขอข้อมูลสั่งการจากพื้นที่เพราะหากไม่ใช่ผบ.ตร.เป็นคนสั่งงานไปตาม บช.หรือ บก. ที่มีตำรวจระดับ พล.ต.ท.พล.ต.ต. เป็นผู้บังคับบัญชา การติดต่อก็จะสะดุดเนื่องจากตำรวจที่อยู่ประจำศปก.ตร.ส่วนใหญ่เต็มที่ก็แค่ระดับ ผู้การฯยศพล.ต.ต.การจะตามจี้ตามบี้ขอขอ้มูลจาก ผบช.ยศพล.ต.ท. หรือผบก.หน่วยยศพล.ต.ต.ก็ทำไม่ได้เต็มที่

การจัดผู้บังคับบัญชาระดับ รองผบ.ตร. จเรตำรวจแห่งชาติ ยศพล.ต.อ.หรือผู้ช่วย ผบ.ตร. ยศพล.ต.ท.มาเข้าเวรในแต่ละวันก็จะช่วยแก้ปัญหาการประสานงานที่สะดุด หากวันไหนมีเรื่องที่ศปก.ตร. ต้องติดตามขอข้อมูลตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เข้าเวรก็จะสามารถประสานได้ง่ายกว่าที่ผ่านมา

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งในการนำตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาเข้าเวรอำนวยการที่ต้องลงมาเดินตรวจ หรือนั่งรถกอล์ฟตรวจภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งถือเป็นเฮดออฟฟิศตำรวจ ก็จะทำให้ตำรวจที่ปฏิบัติงานอยู่ตื่นตัวดูแลพื้นที่ของตัวเองไม่ให้เกิดความบกพร่อง

เช่นเดียวกับตำรวจระดับ พล.ต.อ. พล.ต.ท.เองก็จะได้เข้ามารับรู้ปัญหารายวันที่เกิดขึ้นต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติและได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหารายวัน ไม่ใช่แค่รักษาแต่ฐานที่มั่นตัวเอง

ยิ่งในการเข้าเวรอำนวยการ ต้องยอมรับว่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคนนับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งเข้าสู่ไลน์บริหาร นั่งเก้าอี้ผู้ช่วย ผบ.ตร.รองผบ.ตร. จเรตำรวจแห่งชาติ น้อยคนนักที่จะได้เดินภายในที่ทำงานตัวเองไม่ใช่เดินเพียงแค่ในอาคารจากสำนักงานตัวเองไปห้องประชุมหรือบางคนอาจไม่เคยเดินเลยก็น่าจะมี

บางคนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่ละจุด แต่ละมุมมีอะไรบ้างเพราะมาทำงานตอนเช้าก็นั่งรถเข้ามาจอดตรงบันไดทางขึ้นไปห้องทำงานขากลับก็ลงมาขึ้นรถนั่งออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

และผลสะท้อนที่ออกมาจากการจัดระเบียบ ปรับยุทธศาสตร์ “เฮดออฟฟิศ”ใหม่ ได้ปูทางสร้างฐานอย่างมั่นคงแล้ว ก็จะทำให้หน่วยงานปฏิบัติทั้งระดับกองบัญชาการ กองบังคับการ กองกำกับการ และสถานีตำรวจ ต้องตื่นตัวต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อสนองตอบความต้องการข้อมูล ข้อเท็จจริง และผลการปฏิบัติงาน ของระดับผู้บริหาร

ฉะนั้นหากยุทธศาสตร์ครั้งใหม่ในยุคพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว กุมบังเหียนผู้นำสีกากีเข้าสู่ปีที่ 2สามารถขับเคลื่อนไปตามวัตถุประสงค์ที่วางเอาไว้ก็เชื่อว่าประโยชน์ต่างๆจะสะท้อนออกมาสู่ประชาชนให้ได้รับรู้ รับทราบ สร้างศรัทรา “ตำรวจ”จากชาวบ้านให้กลับคืนมาอีกครั้ง

ขอเพียงอย่างเดียว อย่าแค่เป็นเรื่อง “ไฟไหม้ฟาง”เท่านั้นเป็นพอ.

กำลังโหลดความคิดเห็น