สน.บางโพงพาง รับแจ้งอุบัตุเหตุรถเก๋งพุ่งชนร้านอาหารตามสั่ง ส่งผลให้มีสาวแคชเชียร์ดวงกุดเสียชีวิต 1 รายขณะพักเที่ยงรอกินข้าวในร้าน และบาดเจ็บอีก 2 ราย
วันนี้(1 ต.ค). ร.ต.ท.สําเริง แก้วมณี พนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนร้านอาหารมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตบริเวณบางกอกแสควร์ถนนพระราม 3 ฝั่งขาออก แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. จึงรุดตรวจไป สอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์นิติเวชรพ.จุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญู
ที่เกิดเหตุบริเวณร้านขายอาหารตามสั่งริมทางเท้า ไม่มีชื่อ เจ้าหน้าที่พบโต๊ะ เก้าอี้แตกหักกระจัดกระจาย ไปทั่วบริเวณใกล้กันพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นอินเท กรา สีขาว ทะเบียน ญฌ 1700 กรุงเทพมหานครสภาพ รถฟาดเข้ากับเสาไฟฟ้าพังยับเยินทั้งคัน กันชนหน้า หลุดออกจากตัวรถกระจกแตกกระจายเต็มพื้น ห่างไป ประมาณ50 เมตรภายในลานจอดของบางกอกแสควร์ พบศพ น.ส.สุภาภรณ์ชัยมงคล อายุ21 ปี พนักงาน แคชเชียร์บริษัท บริงค์ส (ประเทศไทย) จํากัด สาขา ย่อยพระราม 3 สวมชุดฟอร์มสีนํ้าเงินของบริษัท สภาพ ศพตามร่างกายกระดูกหักมีเลือดไหลท่วมหน้า ส่วนผู้ ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ทราบชื่อคือนายศิวพล แสงพิทักษ์ อายุ25 ปี คนขับรถคันเกิดเหตุมีอาการเเน่นหน้าอก และนายกรธนา อินทรสุขอายุ37 ปี ลูกค้าของร้าน อาหาร มีอาการปวดหลัง ถูกนําส่ง รพ.บางปะกอก 1 ไป ก่อนหน้ารสอบปากคํา นายอดุลย์ ป้องโลห์ อายุ53 ปี เจ้าของร้านอาหาร ให้การว่า รถคันดังกล่าวขับมา ด้วยความเร็วสูงประมาณ200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จาก ถนนฝั่งพระราม 3 ขาเข้า ก่อนจะกลับรถมาฝั่งขาออก และขับมาด้วยความเร็วสูงจนรถเสียหลักพุ่งเข้ามาชน โต๊ะ เก้าอี้ภายในร้านของตนที่ตั้งอยู่ริมทาง ทําให้ผู้ตาย ที่นั่งรออาหารอยู่ถูกชนกระเด็นลอยข้ามรั้วเข้าไป ภายในลานจอดรถที่อยู่ติดกันเสียชีวิต
ด้านนายนิคม อุทธิยา อายุ35 ปี แฟนของผู้ตาย เล่าเหตุการณ์ทั้งนํ้าตาว่า ตนและผู้ตายทํางานอยู่บริษัท เดียวกัน ขณะที่พักเบรกได้ออกมารับประทานอาหารที่อยู่ ใกล้บริษัท โดยผู้ตายนั่งรอที่โต๊ะ ส่วนตนเดินไปสั่ง อาหาร ระหว่างนั้นได้ยินเสียงรถวิ่งมาด้วยความเร็วสูง จึงหันไปมองก็เห็นรถคันดังกล่าวชนเข้าอย่างจังบริเวณ โต๊ะที่แฟนตนนั่งอยู่ ก่อนที่ร่างของแฟนจะลอยเข้าไป ตกอยู่ในลานจอดรถของบริษัท รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเนื่องจากแฟนเป็นคนดีใจบุญไม่น่าจะมาเสียชีวิต แบบนี้
ร.ต.ท.สําเริง กล่าวว่า มีพยานเห็นว่ารถคันดังกล่าว ขับวนไปมาบริเวณนี้ด้วยความเร็วสูงมา 2-3 คืนแล้ว กระทั่งเกิดอุบัติเหตุหลังจากนี้จะสอบปากคําพยานที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดเบื้องต้นมี ความผิดฐาน “ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ ความตาย” ก่อนจะเดินทางไปสอบปากคําคนขับรถและ ตรวจแอลกอฮอล์เพื่อดําเนินคดีต่อไป
วันนี้(1 ต.ค). ร.ต.ท.สําเริง แก้วมณี พนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนร้านอาหารมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตบริเวณบางกอกแสควร์ถนนพระราม 3 ฝั่งขาออก แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. จึงรุดตรวจไป สอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์นิติเวชรพ.จุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญู
ที่เกิดเหตุบริเวณร้านขายอาหารตามสั่งริมทางเท้า ไม่มีชื่อ เจ้าหน้าที่พบโต๊ะ เก้าอี้แตกหักกระจัดกระจาย ไปทั่วบริเวณใกล้กันพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นอินเท กรา สีขาว ทะเบียน ญฌ 1700 กรุงเทพมหานครสภาพ รถฟาดเข้ากับเสาไฟฟ้าพังยับเยินทั้งคัน กันชนหน้า หลุดออกจากตัวรถกระจกแตกกระจายเต็มพื้น ห่างไป ประมาณ50 เมตรภายในลานจอดของบางกอกแสควร์ พบศพ น.ส.สุภาภรณ์ชัยมงคล อายุ21 ปี พนักงาน แคชเชียร์บริษัท บริงค์ส (ประเทศไทย) จํากัด สาขา ย่อยพระราม 3 สวมชุดฟอร์มสีนํ้าเงินของบริษัท สภาพ ศพตามร่างกายกระดูกหักมีเลือดไหลท่วมหน้า ส่วนผู้ ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ทราบชื่อคือนายศิวพล แสงพิทักษ์ อายุ25 ปี คนขับรถคันเกิดเหตุมีอาการเเน่นหน้าอก และนายกรธนา อินทรสุขอายุ37 ปี ลูกค้าของร้าน อาหาร มีอาการปวดหลัง ถูกนําส่ง รพ.บางปะกอก 1 ไป ก่อนหน้ารสอบปากคํา นายอดุลย์ ป้องโลห์ อายุ53 ปี เจ้าของร้านอาหาร ให้การว่า รถคันดังกล่าวขับมา ด้วยความเร็วสูงประมาณ200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จาก ถนนฝั่งพระราม 3 ขาเข้า ก่อนจะกลับรถมาฝั่งขาออก และขับมาด้วยความเร็วสูงจนรถเสียหลักพุ่งเข้ามาชน โต๊ะ เก้าอี้ภายในร้านของตนที่ตั้งอยู่ริมทาง ทําให้ผู้ตาย ที่นั่งรออาหารอยู่ถูกชนกระเด็นลอยข้ามรั้วเข้าไป ภายในลานจอดรถที่อยู่ติดกันเสียชีวิต
ด้านนายนิคม อุทธิยา อายุ35 ปี แฟนของผู้ตาย เล่าเหตุการณ์ทั้งนํ้าตาว่า ตนและผู้ตายทํางานอยู่บริษัท เดียวกัน ขณะที่พักเบรกได้ออกมารับประทานอาหารที่อยู่ ใกล้บริษัท โดยผู้ตายนั่งรอที่โต๊ะ ส่วนตนเดินไปสั่ง อาหาร ระหว่างนั้นได้ยินเสียงรถวิ่งมาด้วยความเร็วสูง จึงหันไปมองก็เห็นรถคันดังกล่าวชนเข้าอย่างจังบริเวณ โต๊ะที่แฟนตนนั่งอยู่ ก่อนที่ร่างของแฟนจะลอยเข้าไป ตกอยู่ในลานจอดรถของบริษัท รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเนื่องจากแฟนเป็นคนดีใจบุญไม่น่าจะมาเสียชีวิต แบบนี้
ร.ต.ท.สําเริง กล่าวว่า มีพยานเห็นว่ารถคันดังกล่าว ขับวนไปมาบริเวณนี้ด้วยความเร็วสูงมา 2-3 คืนแล้ว กระทั่งเกิดอุบัติเหตุหลังจากนี้จะสอบปากคําพยานที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดเบื้องต้นมี ความผิดฐาน “ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ ความตาย” ก่อนจะเดินทางไปสอบปากคําคนขับรถและ ตรวจแอลกอฮอล์เพื่อดําเนินคดีต่อไป