ศาลอาญาจำคุก 18 ปี หนุ่มก่อเหตุใช้มีดปอกผลไม้แทงสาวญี่ปุ่นเสียชีวิต แล้วหลบหนีมากบดานในประเทศไทยนาน 19 ปีเศษ แต่จำเลยสารภาพลดโทษ เหลือจำคุก 9 ปี
วันนี้ (30 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพิพากษาคดีหมายเลข อ.4888/2556 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวีรศักดิ์ หรือศักดิ์ เอี่ยมพงศ์ษา อายุ 41 ปี อยู่ที่ 180/2 ม.4 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
อัยการโจทก์ระบุฟ้องว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2536 จำเลยใช้มีดปอกผลไม้แทงนางเมงูมิ อาวาจิ อายุ 33 ปี ชาวญี่ปุ่น และใช้ผ้าเช็ดตัว และสายไฟฟ้ารัดคอ เหตุเกิดในห้องพักอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง แขวงอิเคบุคุโระ เขตโตชิมะ กรุงโตเกียว จนถึงแก่ความตาย ก่อนหลบหนีกลับประเทศไทยพร้อมเงินสด และทรัพย์สินของผู้ตาย ต่อมาตำรวจกองปราบปรามจับกุมจำเลยได้ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1782/2555 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ที่ท่ารถบริษัทศรีสุเทพทัวร์ จ.นครศรีธรรมราช โดยจำเลยให้การรับสารภาพว่า ฆ่าผู้ตายจริง และรู้จักกับผู้ตายขณะทำงานที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่น ผู้ตายชักชวนให้มาพักด้วยกันที่อพาร์ตเมนต์และเกิดเข้าใจผิดเรื่องเงินที่จำเลยขอคืนจากผู้ตาย แต่ได้รับการปฏิเสธ จำเลยจึงก่อเหตุขึ้น ศาลจึงมีคำสั่งให้สืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพรวม 3 ปาก เป็นตำรวจญี่ปุ่น 2 นาย และตำรวจไทย 1 นาย ขณะที่ทนายจำเลย แถลงไม่ขอสืบพยาน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลย มีน้ำหนักมั่นคง ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ใช้มีดแทง ก่อนใช้สายไฟรัดคอผู้ตาย และเห็นว่าจากการกระทำของจำเลยประสงค์ให้ถึงแก่ความตาย มีเจตนาฆ่าผู้ตาย พิพากษาจำคุก 18 ปี แต่คำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือโทษจำคุก 9 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีแรกระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในความร่วมมือทางคดีอาญา เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศ ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน โดยคดีนี้ใกล้จะขาดอายุความ 20 ปี ซึ่งนายวีรศักดิ์หลบหนีความผิดมานาน 19 ปีเศษ แต่ถูกตำรวจจับกุมตัวได้ก่อน