หนุ่มเมืองตรังโหด ใช้มีดแทงสาวญี่ปุ่นดับ ก่อนหนีกลับเมืองไทย สารภาพฆ่าเพราะทวงเงินแล้วโดนปฏิเสธ อัยการพิเศษฝ่ายกิจการต่างประเทศ 2 ชี้คดีเกือบขาดอายุความ ระบุศาลนัดสืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพ 19 ส.ค.นี้
ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (29 เม.ย.) ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยและตรวจพยานหลักฐานคดีฆ่าผู้อื่น หมายเลขดำ อ.4887/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้องนายวีรศักดิ์ หรือศักดิ์ เอี่ยมพงศ์ษา อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180/2 หมู่ 4 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
อัยการโจทก์ฟ้องว่า วันที่ 14 มี.ค. 2536 เวลากลางวัน จำเลยได้ใช้มีดปอกผลไม้แทง นางเมงูมิ อาวาจิ อายุ 33 ปี ชาวญี่ปุ่น และใช้ผ้าเช็ดตัว และสายไฟฟ้ารัดคอนางเมงูมิเหตุเกิดในห้องพักอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง แขวงอิเคบุคุโระ เขตโตชิมะ กรุงโตเกียว จนถึงแก่ความตาย ก่อนหลบหนีกลับประเทศไทยพร้อมเงินสด และทรัพย์สินของผู้ตายอีกหลายรายการ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้ติดตามจับกุมจำเลยได้ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1782/2555 ลงวันที่ 5 ต.ค. 2555 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ที่บริเวณท่ารถบริษัท ศรีสุเทพทัวร์ ริมถนนเพชรเกษม ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังแล้ว จำเลยยอมรับว่าฆ่าผู้ตายจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้ รู้จักกับผู้ตาย ขณะไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนี่งที่ประเทศญี่ปุ่น และผู้ตายชักชวนให้มาพักด้วยกันที่อพาร์ตเมนต์ ภายหลังเกิดความเข้าใจผิดเรื่องเงินที่จำเลยขอคืนจากผู้ตาย แต่ได้รับการปฏิเสธ จึงลงมือก่อเหตุฆ่าผู้ตาย
ศาลจึงมีคำสั่งให้สืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพ โดยอัยการโจทก์แถลงขอนำพยานเข้าสืบรวม 3 ปาก เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่น 2 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย 1 นาย ขณะที่ ทนายความจำเลย แถลง ไม่ขอสืบพยาน แต่จะยื่นคำให้การจำเลยเป็นลายลักษณ์อักษรภายหลัง
พร้อมนัดสืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพในวันที่ 19 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
นางอินทรานี สุมาวงศ์ อัยการพิเศษฝ่ายกิจการต่างประเทศ 2 กล่าวว่า คดีนี้ทางตำรวจทั้ง 2 ประเทศ ร่วมมือกันในการรวบรวมพยานหลักฐานกันเป็นอย่างดี ซึ่งหลังก่อเหตุจำเลยได้หลบหนีคดีนานกว่า 19 ปี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้ติดตามจับกุมจำเลย พร้อมความเห็นให้อัยการยื่นฟ้องก่อนคดีจะหมดอายุความ 20 ปี ซึ่งทางการญี่ปุ่นได้แสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยอย่างมาก และได้ติดตามความคืบหน้าของคดีเป็นระยะ รวมทั้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นเดินทางมาฟังการพิจารณาคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจับกุมนายวีรศักดิ์นี้ นับเป็นคดีแรกระหว่างประเทศไทยกับญี่ปุ่น ในความร่วมมือทางคดีอาญา เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน โดยคดีนี้ใกล้จะขาดอายุความ 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งนายวีรศักดิ์หลบหนีความผิดมานาน19 ปีเศษ อีกเพียงไม่กี่เดือน ก็จะพ้นผิด แต่มาถูกจับตัวได้ก่อน
