xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์แก้โทษคุก 3 ปี ยายล้อมรั้วลวดไฟฟ้าช็อตหนุ่ม RBAC ฉกใบกระท่อมตาย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่พบศพนายมะรอปี สาแม อดีตนักศึกษา RBAC ที่ร่องสวนใกล้รั้วบ้านของจำเลย (แฟ้มภาพ)
ศาลอุทธรณ์แก้โทษเหลือจำคุก 3 ปี “ยายทองดี” ขึงลวดปล่อยไฟฟ้าช็อตอดีตนักศึกษาอาร์แบคเสียชีวิต ขณะที่ครอบครัวยืนยันไม่ฎีกา รอขอยื่นอภัยโทษ

ที่ห้องพิจารณา 903 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (26 ก.ย.) ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.1947/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางทองดี หรือแป๋ว แจ่มศรี อายุ 73 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และมีและผลิตพืชกระท่อม ยาเสพติดประเภท 5 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522

คดีนี้อัยการโจทก์ฟ้องสรุปว่า ระหว่างวันที่ 10-11 ก.พ. 2554 เวลากลางคืน จำเลยได้เดินสายไฟเชื่อมต่อจากบ้านจำเลย กับลวดโลหะเปลือยที่ขึงไว้รอบบ้าน จากนั้นได้ปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงดัน 220 โวลต์ เพื่อป้องกันคนร้ายที่จะเข้ามาลักทรัพย์ในบริเวณบ้าน โดยขณะนั้นนายมะรอปี ลังแม ได้เข้ามายังบริเวณรั้วดังกล่าวและได้สัมผัสกับกระแสไฟฟ้า กระทั่งถูกกระแสไฟฟ้าดูดเสียชีวิต และเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2554 จำเลยได้ผลิตโดยปลูกพืชกระท่อม 30 ต้น น้ำหนักรวม 41 กิโลกรัมเศษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เหตุเกิดที่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2555 เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการทำร้ายผู้อื่น เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ตามมาตรา 290 วรรคแรก ให้จำคุก 3 ปี และกระทำผิดฐานผลิตกระท่อม และมีพืชกระท่อมในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้จำคุกฐานผลิตกระท่อม ที่เป็นบทหนักสุด จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน เห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกฐานทำร้ายผู้อื่น ฯ 2 ปี และผลิตกระท่อมจำคุก 1 ปี 4 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 3 ปี 4 เดือน ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ขอให้ลดโทษและรอลงอาญา

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ตามวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพนายมะรอปี สาแม อดีตนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจการเงินและการธนาคาร มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต (RBAC) ที่ร่องสวนใกล้รั้วบ้านของจำเลย ที่ข้อเท้าผู้ตายมีลวดเกี่ยวโยงมาจากรั้วบ้านของจำเลย ที่จำเลยให้หลานนำลวดไปล้อมรั้วไว้เพื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ป้องกันขโมย เห็นว่าแม้การกระทำของจำเลยจะเป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ แต่ผู้ตายก็มีส่วนผิดที่จะเข้ามาในบริเวณบ้านของจำเลยโดยมีเจตนาลักทรัพย์ในที่ของจำเลย กรณีจึงเห็นสมควรที่จะกำหนดโทษให้ต่ำลง ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ให้รอการลงโทษนั้น เห็นว่าการปล่อยกระแสไฟฟ้านั้นอาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้อื่นถึงชีวิตได้ ประกอบกับจำเลยก็ผลิตกระท่อม โดยปลูกพืชกระท่อมไว้ถึง 30 ต้น ขณะที่พนักงานสอบสวน ระบุว่า ต้นกระท่อมที่ปลูกนั้นมีขนาดใหญ่ สูงร่วม 2 เมตร และยังได้ความว่าจำเลยเคยถูกดำเนินคดีมีกระท่อมไว้ในครอบครอง แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่เข็ดหลาบ แต่จำเลยยังปลูกพืชกระท่อม พฤติการณ์จึงไม่สมควรรอการลงโทษเพื่อให้จำเลยได้หลาบจำ

จึงพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุก 2 ปี 6 เดือน ฐานทำร้ายผู้อื่นฯ โดยลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 8 เดือน เมื่อรวมโทษฐานผลิตกระท่อมที่ศาลชั้นต้นพิพากษาอีก 1 ปี 4 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 2 ปี 12 เดือน

ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว นางทองดีซึ่งได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างการพิจารณา ได้ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวเพื่อไปคุมขังทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากนางทองดีไม่ประสงค์ยื่นฎีกาคดีอีกต่อไป

ด้านนางจุฑามาศ สุคันธชลาธร บุตรสาวของนางทองดีกล่าวว่า มารดาไม่ต้องการยื่นฎีกาแล้ว เนื่องจากได้ปรึกษาหารือกับทนายความแล้ว อยากที่จะให้คดีจบเพียงเท่านี้ เพื่อจะได้สิทธิยื่นขออภัยโทษต่อไป โดยขณะนี้มารดาป่วยเป็นโรคไทรอยด์ มีอาการแขน-ขาอ่อนแรง และเป็นโรคถุงลมโป่งพอง รวมทั้งมีอาการปวดเมื่อยตัว ซึ่งมารดาบอกว่าพร้อมจะยอมรับโทษ และหลังจากนี้ตนก็จะไปเยี่ยมมารดาในเรือนจำ
นางทองดี หรือแป๋ว แจ่มศรี อายุ 73 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น