ตำรวจกองปราบปรามติดตามจับกุม “ตี๋ใหญ่ สวนสกุล” ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามหมายจับ หลังตั้งตนเป็นแก๊งปล่อยเงินกู้รายย่อยย่านหนองแขม เบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงินคืนนายทุนเงินกู้ นัดมาเจรจาไม่ลง ยิงนายทุนเงินกู้ดับก่อนหลบหนี
คลิปเพื่อรับชมคลิป...
วันนี้ (19 ก.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วรวุฒิ คุณะเกษม ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผกก.3 บก.ป.แถลงข่าวจับกุม นายศักดิ์ดา หรือ ตี๋ใหญ่ สวนสกุล อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/3 หมู่ 7 ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ตามหมายจับศาล “ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมได้ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2553 ผู้ต้องหาร่วมกับ นายวิโรจน์ หรือ เปีย ขำหนองเต่า อายุ 41 ปี ซึ่งมีอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบในพื้นที่ย่านหนองแขม กทม.ได้ยืมเงินจาก นายชลชัย ดิถีเพ็ง อายุ 39 ปี ประกอบอาชีพทำธุรกิจส่วนตัว เป็นเงินจำนวน 600,000 บาท เพื่อนำไปปล่อยให้กู้อีกทอดหนึ่ง โดยจะคิดดอกเบี้ยจากลูกหนี้เงินกู้ร้อยละ 20 บาทต่อวัน แต่หลังจากปล่อยเงินกู้ไปแล้ว ทางผู้ต้องหากับนายวิโรจน์ กลับไม่ยอมคืนเงินที่ยืมมาคืนให้นายชลชัย จนมีปัญหากัน
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวต่อว่า จากนั้นทาง นายเอกรัฐ ขำหนองเต่า อาของ นายวิโรจน์ ได้เป็นคนกลางนัดหมายทั้งสองฝ่ายเพื่อมาเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้สินกันที่บ้านของตนเอง ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านนิสา แขวงและเขตหนองแขม กทม.แต่ทั้งสองฝ่ายได้เกิดการโต้เถียงกัน ทำให้ นายศักดิ์ดา ชักอาวุธปืนลูกซองสั้นที่พกติดตัวมายิง นายชลชัย จนเสียชีวิต ก่อนจะพากันหลบหนี กระทั่งศาลออกหมายจับ ต่อมาเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา นางประภาพร แซ่ลิ้ม ภรรยาผู้ตายได้เข้าร้องกองปราบปรามให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี เนื่องจากเวลาผ่านไป 3 ปี แต่คดีกลับไม่คืบ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปทำงานรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
สอบสวน นายศักดิ์ดา รับสารภาพว่ามีหนี้ที่ค้างชำระนายชลชัย อยู่จำนวน 60,000 บาท ซึ่งได้มีการนัดเจรจาเพื่อขอทยอยผ่อนชำระคืนให้ แต่ นายชลชัย ไม่ยอมหาว่าตนโกง ซ้ำยังได้ด่าทออย่างรุนแรงถึงบุพการี ทำให้ตนเกิดบันดาลโทสะ จึงใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงจนเสียชีวิต แล้วได้หลบหนีไป กระทั่งมาถูกตำรวจติดตามจับกุมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้ พบว่าเมื่อปี 2544 เคยถูกศาลตัดสินจำคุกในคดีฆ่าผู้อื่น หลังจากก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงคู่อริจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่ จ.นครสวรรค์ โดยพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2549 จากนั้นจึงมาก่อเหตุยิง นายชลชัย ส่วน นายวิโรจน์ นั้น พบประวัติเคยก่อคดีฆ่าผู้อื่นเช่นเดียวกัน โดยก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อปี 2552 และคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล ก่อนจะมาร่วมกับผู้ต้องหาปล่อยเงินกู้นอกระบบ และก่อคดีอีกครั้ง ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ก่อนหน้านี้ทาง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.ได้กำชับให้ตำรวจ บก.ป.เร่งจับกุมแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว เนื่องจากแก๊งดังกล่าวมักจะเกี่ยวพันกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง ซึ่งมีพฤติกรรมข่มขู่ รวมทั้งใช้ความรุนแรงในการติดตามทวงหนี้สินจากลูกหนี้