ปคม.จับสองแม่ลูกหลอกสาวไทยค้ากามบาห์เรน

รวบตัวสองแม่ลูกหลอกสาวไทยไปค้าประเวณีที่บาห์เรน อ้างจะพาไปเป็นพนักงานนวดแผนโบราณ หากไปถึงแล้วไม่ยอมทำงานขู่จะฆ่าทิ้ง ผู้เสียหายแอบโทร.บอกสามีเข้าร้องปวีณา

วันนี้ (29 ส.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 13.30 น. นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ปคม. แถลงข่าวจับกุม นางคณารัตน์ หรือเต็ม มูนช อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207 หมู่ 7 ต.บ้านเป้า อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ และ น.ส.อริชชา หรือเจี๊ยบ ศิลคุ้ม อายุ 28 ปี สองแม่ลูก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1978 และ 1979/2556 ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2556 ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์, ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น, เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลเพื่อการค้าประเวณี โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ หรือข่มขืนใจด้วยประการใดๆ จับกุมได้ในพื้นที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา นายก้อง (นามสมมติ) อายุ 43 ปี ได้เข้าร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาฯ ว่า ก่อนหน้านี้ภรรยาคือ นางนวล (นามสมมติ) อายุ 37 ปี และเพื่อนสาวอีก 2 คน ได้ถูกนางคณารัตน์หลอกลวงให้ไปทำงานที่ประเทศบาห์เรน โดยอ้างว่ามีงานพนักงานนวดแผนโบราณที่ประเทศบาห์เรนให้ทำ รายได้ดี และจะออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ก่อน เมื่อทำงานมีรายได้แล้วค่อยใช้เงินคืน ภายหลังภรรยากับเพื่อนหลงเชื่อเดินทางไปแล้ว ได้มีชาวบาห์เรนและคนไทยพาไปพักที่โรงแรมลาเนียฮูลาแอบพิชันโรส กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน 2 วัน พร้อมกับยึดหนังสือเดินทางและตั๋วเครื่องบินเอาไว้ ก่อนจะถูกบังคับให้ค้าประเวณี โดยกลุ่มผู้ต้องหาขู่ว่าหากไม่ยินยอมจะฆ่าทิ้ง

ต่อมานางนวลได้แอบโทรศัพท์กลับมาหาสามี เพื่อขอความช่วยเหลือ ก่อนจะมีการร้องทุกข์ที่มูลนิธิปวีณาฯ และประสานไปยังกรมการกงสุล จากนั้นทางสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำบาห์เรนจึงประสานตำรวจเข้าช่วยเหลือนางนวลกับพวก ส่งตัวกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นจึงแจ้งความที่ บก.ปคม.กระทั่งมีการออกหมายจับ และติดตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ดังกล่าว

พล.ต.ต.ชวลิตกล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ดี ตามแนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองเคยไปทำงานที่ประเทศบาห์เรน ซึ่งรู้จักกับคนไทยที่นั่น จึงยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายราย โดยมีนางแอน (ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล) ทำหน้าที่เป็นแม่แท็ก และชาวบาห์เรน ซึ่งทั้งสองได้ทำธุรกิจร่วมกันอยู่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ และประสานกับตำรวจสากล หรืออินเตอร์โปล ติดตามตัวมาดำเนินคดี นอกจากนี้ก็จะตรวจสอบความเชื่อมโยงกับขบวนการที่ บก.ปคม.เคยจับกุมผู้ต้องหาไว้ก่อนหน้าด้วยว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่อย่างไร เพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป