เครือข่ายราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน ประมาณ 50 คนแห่ยื่นหนังสือกล่าวโทษ “ธาริต” จี้ รมว.ยุติธรรม สั่งพักราชการ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 15 ส.ค. ที่หน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีกลุ่มประชาชนนำโดย นายบวร ยสินทร แกนนำกลุ่มเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน ประมาณ 50 คน ได้รวมตัวชุมนุมประท้วงนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีเอสไอ เนื่องจากไม่พอใจคำพูดของนายธาริต ที่แถลงข่าวกรณีรับคดีตัดต่อภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คู่กับป้ายอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เป็นคดีพิเศษ ทั้งนี้ มีใจความตอนหนึ่งระบุถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า “ดีเอสไอไม่ได้รับใช้การเมือง แต่ว่าประมุขของประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรีถูกกระทำอย่างนี้ และเป็นความผิดที่ดีเอสไอรับผิดชอบ จึงต้องดำเนินการ” ซึ่งมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ประโยคดังกล่าวเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม อธิบดีดีเอสไอไม่ได้มารับหนังสือเปิดผนึกเพื่อกล่าวโทษด้วยตนเองเนื่องจากติดการปฏิบัติหน้าที่ราชการ
นายบวรได้อ่านหนังสือเปิดผนึกกล่าวโทษนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ว่าถ้อยคำดังกล่าวถือว่าบิดเบือนและสร้างความเสียหายต่อประเทศ อันเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายความมั่นคงของชาติ เพราะประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข องค์พระมหากษัตริย์จะถูกผู้ใดละเมิดมิได้ ดังนั้น นายธาริตจึงกระทำผิดฐานดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 และที่ผ่านมานายธาริตมักไม่ใส่ใจต่อคดีหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์เท่าที่ควร จนมีผู้กระทำผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มากมาย จึงเป็นข้อสงสัยในความจงรักภักดีของนายธาริตมาโดยตลอด
หลังจากนี้ตนและประชาชนผู้มีความจงรักภักดีจะเดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อกล่าวโทษนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีหน้าที่โดยตรงในการรักษาความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ และในฐานะผู้มีส่วนเสียกับคำพูดของนายธาริต โดยขอให้พักราชการและตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อนายธาริต นอกจากนี้ ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะผู้บังคับบัญชา เพื่อให้พักราชการและตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อนายธาริต รวมทั้งจะยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินคดีต่อนายธาริต ในความผิดฐานดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย ทั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง จะสะท้อนให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีมีความประสงค์เช่นเดียวกับนายธาริต และตนจะดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องในความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 157
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมว่า กลุ่มผู้ชุมได้นำป้ายต่างๆ ที่มีข้อความโจมตีนายธาริต เช่น ดีเอสไอขี้ข้าทักษิณ, ประมุขของประเทศมีคนเดียว, ธาริตทำงานรับใช้การเมือง, รับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ฯลฯ พร้อมทั้งตะโกนต่อว่าและเรียกร้องให้นายธาริตรับผิดชอบต่อการกระทำด้วยการลาออก ขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำดีเอสไอก็ได้มีการนำแผงเหล็กมาวางมาปิดกั้นพื้นที่หน้าสำนักงานดีเอสไอ เพื่อรักษาความปลอดภัยที่บริเวณด้านหน้าอาคาร เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุกเข้ามาด้านในอาคารด้วย รวมทั้งมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ทุ่งสองห้อง มาคอยรักษาคงามสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม การชุมนุมเป็นไปโดยไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายใดๆ ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่านายธาริตไม่อยู่มารับหนังสือ จึงเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม โดยมีนายปิติพงศ์ เต็มเจริญ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม มารับเรื่องแทนเนื่องจากนายชัยเกษม ติดปฏิบัติราชการที่ประเทศเกาหลีและจะเดินทางกลับมาวันที่ 19 ส.ค. ซึ่งตนจะรับเรื่องส่งให้รัฐมนตรีทราบเพื่อดำเนินการต่อไป ส่วนผลเป็นอย่างไรจะมีการทำหนังสือแจ้งให้นายบวร ยสินทร แกนนำกลุ่มเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบันรับทราบต่อไป