2 สาวร้องสภาทนายความ ถูกอดีตเจ้าอาวาสวัดภูพานอุดมธรรม ล่วงละเมิดทางเพศ ขณะบวชชีพราหมณ์เมื่อปี 52 หลังอัยการมีคำสั่งให้ยุติคดีเหตุหมดอายุความ
วันนี้ (14 ส.ค.) ที่สำนักสภาทนายความ ถนนราชดำเนินกลาง นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี และนางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 29 ปี เดินทางเข้าพบ นายสุนทร พยัคฆ์ อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายสภาทนายความ พร้อมด้วย นายวิเชียร ชุบไธสง อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์สภาทนายความ และ นายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ เพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย
เนื่องจากกรณีที่ผู้เสียหายทั้ง 2 ได้ถูกพระครูอุดมธรรมานุกุล ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดภูพานอุดมธรรม อดีตรองเจ้าคณะอำเภอนาแก อีกทั้งเป็นประธานมูลนิธิภูพานอุดมธรรมานุสรณ์ จังหวัดนครพนม ล่วงละเมิดทางเพศในขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมติ) ได้บวชชีพราหมณ์อยู่ที่วัดภูพานอุดมธรรม ตั้งแต่อายุ 14 ปี มาตลอดจนถึง พ.ศ.2552 และในส่วนของนางสาวบีได้ถูกกระทำอนาจารเช่นเดียวกันมาจนถึงปี พ.ศ.2554
นายสุนทร กล่าวว่า สำหรับในวันนี้ ทางด้านผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ได้เดินทางเข้ามาร้องเรียนต่อสำนักสภาทนายความ เพื่อร้องทุกข์ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตเจ้าอาวาสรายดังกล่าว ภายหลังจากทางพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสั่งฟ้องในคดี ต่อมาทางด้านพนักงานอัยการได้มีคำสั่งให้ยุติการดำเนินคดีในกรณีของนางสาวเอที่เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับอดีตเจ้าอาวาสไปก่อนหน้านี้ โดยระบุว่าคดีความดังกล่าวนั้นได้หมดอายุความไปแล้ว ในส่วนกรณีของนางสาวบีนั้น ยังไม่ทราบผลการพิจารณาของพนักงานอัยการ
นายสุนทร กล่าวอีกว่า ในวันนี้ นางสาวเอ และ นางสาวบี (นามสมมติ) มีความประสงค์ที่จะดำเนินการในส่วนคดีโดยเข้าฟ้องต่อศาลด้วยตัวเอง ด้านผู้เสียหายทั้ง 2 ได้นำเอกสารมายื่นร้องเรียนประกอบด้วย 1.เอกสารใบรับรองแพทย์ที่ระบุผลว่ามีร่องรอยการถูกข่มขืนจริง 2.เอกสารคำสั่งฟ้องของพนักงานสอบสวน 3.เอกสารคำสั่งยุติคดีของพนักงานอัยการ เข้ารับความช่วยเหลือทางกฎหมายในการยื่นฟ้องคดีอาญากับผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวต่อสภาทนายความ ซึ่งเบื้องต้นได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ ว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ ถ้าผิดจริงทางสภาทนายความจะแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อฟ้องคดีให้กับทางผู้เสียหายทั้ง 2 อีกทั้งพร้อมให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายต่อไป
