“ทนายสุกิจ” ยืนยันยังไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นทนายให้กับ “สมีคำ” เพียงแค่เคยรับปากจะช่วยเหลือประสานให้กับดีเอสไอ ชี้มีสิทธิ์ลี้ภัยทางศาสนาอยู่สหรัฐฯต่อเหมือนกรณี “ยันตระ” พร้อมเปรยได้รับโทรศัพท์ปลายทางอ้างเป็น “สมีคำ” ระบุ 8 ส.ค.นี้ ยังไม่เข้ามอบตัวอ้างไม่พร้อม ป่วย-หาหลักทรัพย์ประกันตัว!
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม นายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความ ซึ่งมีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า ได้รับหน้าที่เป็นทนายความให้กับ นายวิรพล สุขผล อายุ 34 ปี หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายความของหลวงปู่เณรคำ เพียงแต่มีการประสานทางโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ และปรึกษาข้อกฎหมายในการต่อสู้คดีเท่านั้น โดยหลวงปู่เณรคำ มีความประสงค์อยากจะเข้ามอบตัวกับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จึงต้องการให้ตนประสานงานและยื่นขอประกันตัว
นายสุกิจ กล่าวต่อว่า ได้รับปากไปว่าจะติดต่อประสานงานกับทางดีเอสไอ เพราะอยากช่วยเหลือ ที่ผ่านมา ตนทำคดีกับพระก็ไม่เคยคิดเงินทองอยู่แล้ว ส่วนทางนายธาริต ก็แจ้งมาแล้วว่าหลักทรัพย์ที่ต้องใช้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ศาลกำหนด โดยต้องใช้หลักทรัพย์ 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามอัตราโทษ พร้อมกำหนดเงื่อนไขพิเศษไว้ 4 ข้อ คือ 1.ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ 2.ห้ามยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน 3.ห้ามทำอะไรที่เป็นการขัดขวางการสอบสวนดำเนินคดี และ 4.ต้องเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนทุก 15 วัน
“สำหรับคดีความผิดทางเพศ นั้น ได้ให้ความเห็นว่า เหตุการณ์ผ่านมาแล้วกว่า 10 ปี หากมีเหตุอันควรสงสัย หรือคิดว่าถูกกลั่นแกล้ง สามารถยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ได้ นอกจากนี้หากหลวงปู่เณรคำ ยังอาศัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็มีสิทธิมอบหมายให้ทนายยื่นคำร้องขอลี้ภัยทางศาสนาได้ หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับศาสนา ซึ่งทางการของสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ โดยทางอัยการสามารถแก้ต่างแทน ที่ผ่านมา ก็มีตัวอย่างเช่นกรณีของพระยันตระ ซึ่งแม้จะมีหมายจับของศาลไทย ก็ยังสามารถอาศัยอยู่ที่สหรัฐฯ ต่อไปได้” นายสุกิจ กล่าว
นายสุกิจ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการอวดอุตริ ที่มีการเผยแพร่คลิปออกมาว่า หลวงปู่เณรคำ ได้พบกับพระอินทร์ นั้น ก็มีการตัดข้อความออกไป โดยส่วนที่ถูกตัดออกก็เป็นประเด็นสำคัญ ที่มีการระบุว่า “ฝันเห็นพระอินทร์” แม้แต่คลิปที่ถูกนำเสนอทางรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ก็ตัดข้อความนี้ไป อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ตนได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ ซึ่งไม่แน่ใจว่าปลายสาย คือ หลวงปู่เณรคำ จริงหรือไม่ บอกกับตนมาว่า จะยังไม่เข้ามอบตัวกับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ เนื่องจากมีอาการป่วย และยังอยู่ระหว่างเตรียมหลักทรัพย์ด้วย นอกจากนี้ตนก็ไม่ทราบว่าหลวงปู่เณรคำ อยู่ที่ชายแดนด้านไหนของประเทศ และจะเดินทางเข้าประเทศไทย ผ่านทาง จ.หนองคาย หรือไม่ จึงเป็นเพียงการคาดการณ์ตามที่มีการประสานไว้ก่อนหน้านี้เท่านั้น ซึ่งทันทีที่ตนทราบได้ประสานกับทางดีเอสไอแล้ว
