“ปวีณา หงสกุล” และตำรวจบางเขน แถลงจับพระลูกวัดบางบัว ข่มขืน ด.ญ.วัย 14 ปี ผู้ต้องหาสารภาพลวงเด็กหญิงไปข่มขืนภายในห้องพัก แล้วข่มขู่ไม่ให้บอกใคร เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และข้อหาพรากผู้เยาว์
วันนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ สน.บางเขน พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ต.พงศ์สุรวัฒน์ วงสารัมย์ สว.สส.สน.บางเขน นางปวีณา หงสกุล รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี แถลงข่าวจับกุมอดีตพระมหาสนั่น อติภัทโท หรือ นายสนั่น คำสีแดง อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาที่บวชเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดบางบัว ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1109/2556 ลงวันที่ 21 มิ.ย.2556 สามารถจับกุมได้ที่ วัดทุ่งรวงทอง หมู่บ้านทุ่งรวงทอง หมู่ที่ 9 ต.ทุ่งรวงทอง อ.จุน จ.พะเยา โดยผู้ต้องหาได้ขอลาสิกขาบทต่อหน้าพระราชวิริยาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดพะเยา ที่วัดศรีอุโมงค์คำ อ.เมือง จ.พะเยา
พ.ต.อ.ชยุต เปิดเผยว่า เมื่อกลางเดือน เม.ย.2556 ที่ผ่านมา เด็กหญิงเอมได้มาพบอดีตพระมหาสนั่น ผู้ต้องหาเพียงลำพัง จากนั้นผู้ต้องหาก็ได้ชักชวนให้เด็กหญิงเอม (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี เข้าไปนั่งดูโทรทัศน์ในห้องพักของผู้ต้องหา ต่อมาเมื่อเด็กหญิงเอม เดินเข้าไปภายในห้อง ผู้ต้องหาจึงปิดประตูห้อง และทำการข่มขืนกระทำชำเรา หลังจากนั้นผู้ต้องหาจึงให้เงินแก่เด็กหญิงเอม จำนวน 80 บาท และพูดจาข่มขู่ว่าจะทำร้ายหากนำเรื่องดังกล่าวไปเล่าให้กับมารดาหรือผู้อื่นฟัง ซึ่งผู้เสียหายเกิดความกังวลจึงได้ปิดบังเรื่องมาโดยตลอด และยังคงมาขอรับประทานอาหารและขนมเหมือนเช่นเคย แต่จะคอยระวังตัวไม่ยอมอยู่ตามลำพังกับผู้ต้องหาอีก
ต่อมาวันที่ 28 พ.ค.เวลาประมาณ 13.00 น.ผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ไปชักชวนให้เด็กหญิงเอมมารับอาหารและขนมที่ห้องของผู้ต้องหาอีก แต่ครั้งนี้เด็กหญิงเอมไม่กล้าไปเพียงลำพัง จึงชักชวนเพื่อนผู้หญิงอีก 2 คน ไปที่ห้องพักของผู้ต้องหาด้วย เมื่อไปถึงผู้ต้องหาทำทีใช้ให้เด็กหญิงเอมออกไปซื้อสุรา และน้ำแข็งที่ร้านขายของชำ บริเวณหน้าวัดบางบัว โดยปล่อยให้เพื่อนทั้งสองอยู่กับผู้ต้องหาที่ห้องพัก ภายหลังเด็กหญิงเอมได้ซื้อของและเดินกลับมา ขณะนั้นได้เห็นผู้ต้องหากำลังจับมือลวนลาม และได้ยินเพื่อนทั้งสองร้องเสียงดังและวิ่งออกจากห้องดังกล่าวไป
พ.ต.อ.ชยุต กล่าวอีกว่า เด็กหญิงเอม ตกใจจึงรีบวิ่งนำสุราและน้ำแข็งที่ซื้อมาไปเก็บในห้องพัก แต่ผู้ต้องหารีบวิ่งตามเข้ามาและปิดกลอนประตูห้องพัก และลงมือข่มขืนเด็กหญิงเอม โดยที่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอมและร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้ให้เงินจำนวน 100 บาท พร้อมข่มขู่ว่าจะทำร้ายหากนำเรื่องดังกล่าวไปเล่า แต่ครั้งนี้เด็กหญิงเอมได้นำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษาเพื่อนว่า ถูกผู้ต้องหาข่มขืนโดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัย และกลัวว่าตนจะตั้งครรภ์ เพื่อนจึงแนะนำให้ไปซื้อยาคุมกำเนิดมารับประทาน จึงทำตามที่เพื่อนแนะนำมา หลังจากนั้นอดีตพระมหาสนั่นก็ได้หลบหนีไปจำพรรษาที่วัดอื่น จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและได้นำตัวไปลาสิกขาบทต่อหน้าพระราชวิริยาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดพะเยา
ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า หลังจากทางมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนางสาวมล (นามสมมติ) อายุ 34 ปี มารดาของเด็กหญิงเอม จนทราบว่า ลูกสาวได้ถูกผู้ต้องหาข่มขืนนานกว่า 2 ปี จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้รีบดำเนินการติดตามจับกุม เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปข่มขู่และทำร้ายผู้เสียหาย หลังจากนี้ทางมูลนิธิปวีณาฯจะประสานกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นำตัวเด็กไปฟื้นฟูสภาพจิตใจที่บ้านพักฉุกเฉินต่อไป
จากการสอบสวนอดีตพระมหาสนั่น รับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุกระทำการดังกล่าวจริง เพราะเนื่องจากตนเองได้ดื่มเหล้าจนเมาและเด็กสาวได้เข้ามากอดและหอมแก้มจนเกิดอารมณ์ พร้อมกับฝากถึงพระสงฆ์รูปอื่นๆ ว่าไม่ควรอยู่ตามลำพังกับเด็กและสตรีในที่ลับ เพราะอาจจะเกิดอารมณ์และขาดสติอย่างตนเองได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามโดยปราศจากเหตุอันสมควร, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร” จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
