“สุขุม” พร้อมลูกศิษย์อดีตพระเณรคำ บุก บก.ปปป.แจ้งความดำเนินคดีกับรองผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคงดีเอสไอ ในข้อหาละเมิด และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังให้สัมภาษณ์สื่อบางฉบับว่าได้ติดต่อพูดคุยทางโทรศัพท์ ระบุว่าตนเองยืนยันว่าจะพาพ่อแม่และน้องชาย “สมีคำ” เข้าตรวจดีเอ็นเอสิ้นเดือนนี้ ลั่นไม่เป็นความจริง!
วันนี้ (26 ก.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 16.00 น.นายสุขุม วงประสิทธิ ประธานเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรม และนายเริงศักดิ์ กำธร อดีตผู้สื่อข่าวและลูกศิษย์อดีตพระเณรคำ หรือนายวิรพล สุขพล เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อัศฐา จารุกานนท์ และ พ.ต.ท.สมปราชญ์ เภาพงษ์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.วิชิต อุปะลา รองผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในข้อหาละเมิด และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีที่ พ.ต.ท.วิชิต ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ระบุว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อกับตน และตนยืนยันว่าจะพานายสุริ สุขผล น้องชายพระวิรพล พร้อมด้วยบิดามารดามาตรวจดีเอ็นเอ ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ซึ่งข้อความดังกล่าวตามที่มีการนำเสนอไปนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
นายสุขุม กล่าวว่า ไม่ได้คุยโทรศัพท์กับ พ.ต.ท.วิชิต และยืนยันว่าไม่มีการนัดหมายว่าจะพาบิดา มารดา และน้องชายพระวิรพลไปตรวจดีเอ็นเอ็นตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด จึงต้องออกมาปกป้องสิทธิของตัวเองด้วยการแจ้งความดำเนินดดีกับผู้ที่ให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ รวมทั้งจะดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางอาญาและทางแพ่ง กับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และ พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง ในฐานะผู้บังคับบัญชา รวมทั้งบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชนด้วย
นายสุขุม กล่าวว่า กรณีการติดต่อขอตรวจดีเอ็นเอของทางดีเอสไอนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอโทรศัพท์ติดต่อมาหานายสุริจริง และช่วงนั้นตนก็นั่งอยู่กับนายสุริ ตอนที่รับสายด้วย ซึ่งก็ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอทำตามกฎหมาย และนำหมายศาลมาเท่านั้น แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากดีเอสไอในเรื่องหมายศาลที่จะขอตรวจดีเอ็นเอแต่อย่างใด ส่วนการขอตรวจดีเอ็นเอบิดามารดาพระวิรพลนั้น ตนก็เห็นว่าไม่มีเหตุผลเพียงพอ
ด้าน นายเริงศักดิ์ กล่าว่า ในคดีนี้การทำงานของดีเอสไอข้ามขั้นตอนหลายอย่าง และมีทั้งข้อมูลจริงและข้อมูลเท็จ ส่วนที่มีการกล่าวหาต่างๆ ที่ผ่านมานั้น ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนยังไม่ผ่านการพิจารณาของศาล ตอนนี้พยานหลักฐานดีเอสไอไม่มีน้ำหนัก ความผิด 8 ข้อหาใหญ่ของพระวิรพลมีความผิดอย่างเดียว คือ โลกะวัชชะ คือ โลกติเตียน พระสามารถตักเตือนกันเองได้ เรื่องนี้ประชาชนเริ่มรู้แล้วว่าอะไรคืออะไร
ส่วน พ.ต.ท.อัศฐา กล่าวว่า ได้รับเรื่องสอบปากคำผู้ร้องทุกข์เอาไว้ โดยเบื้องต้นทราบว่ามีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งตามกฎหมายแล้วพนักงานสอบสวน บก.ปปป.จะทำการสอบสวนเบื้องต้นจากนั้นจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.พิจารณาต่อภายใน 30 วัน
