ดีเอสไอร่อนหมายเรียกพ่อ แม่ และน้องชาย ลูกศิษย์ “สมีคำ” ให้ปากคำ-พิสูจน์ดีเอ็นเอ 31 ก.ค.นี้ หากเลื่อนต้องให้เหตุผลชัด เผยผลตรวจวัสดุสร้างพระแก้วมรกตชัดไม่ใช่หินหยก เล็งขยายผลเอาผิดฐานหลอกลวงประชาชน!
วันนี้ (26 ก.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล ฉัตติโก (หลวงปู่เณรคำ) ว่าดีเอสไอได้ประสานไปยังนายสุขุม วงประสิทธิ ศิษย์อดีตเณรคำ และออกหมายเรียกให้บุคคลใกล้ชิดกับอดีตเณรคำ ประกอบด้วย นายรัตน์ และนางสุดใจ สุขผล พ่อและแม่อดีตเณรคำ, นายสุริ สุขผล น้องชายที่อ้างว่าเป็นบุคคลในภาพที่ถ่ายคู่กับสีกา รวมถึงตัวนายสุขุมเอง เข้ามาให้ปากคำในฐานะพยานกับดีเอสไอ โดยกำหนดให้เข้าพบตามหมายเรียกในวันที่ 31 ก.ค.นี้ ในเวลา 09.00 น. ที่อาคารดีเอสไอ โดยจะมีการขอตรวจดีเอ็นเอเพื่อนำไปพิสูจน์ความสัมพันธ์กับเด็กชายวัย 11 ปี ที่เกิดจากหญิงที่อ้างว่ามีสัมพันธ์กับอดีตเณรคำด้วย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นดีเอสไอจะเปิดโอกาสให้เลื่อนการเข้าให้ปากคำได้แต่ต้องมีเหตุผลที่เหมาะสม
ผบ.สำนักคดีความมั่นคงกล่าวอีกว่า ล่าสุดดีเอสไอได้รับแจ้งผลการตรวจพิสูจน์วัตถุที่ใช้สร้างพระแก้วมรกตจำลองที่อ้างว่าเป็นองค์ใหญ่ที่สุดในโลกของสำนักสงฆ์ป่าขันติธรรม จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีแล้ว หลังจากสำนักศิลปากรที่ 11 จ.อุบลราชธานี ส่งตัวอย่างวัสดุไปตรวจสอบผลปรากฏยืนยันชัดเจนว่าวัสดุที่ใช้ไม่หินหยก แต่เป็นหินปูนหรือหินอ่อนเท่านั้น ดังนั้น ดีเอสไอจะนำข้อมูลดังกล่าวไปขยายผลการสอบสวนเพื่อดำเนินการเอาผิดฐานหลอกลวงเนื่องจากมีการประกาศระดมเงินบริจาคจำนวนสูงถึง 150 ล้านบาท เพื่อจัดสร้างพระแก้วมรกตจำลองที่จะสร้างขึ้นจากหินหยก ทำให้ประชาชนหลงเชื่อร่วมบริจาคเงิน โดยดีเอสไอจะตรวจสอบเพื่อประเมินมูลค่าที่แท้จริงซึ่งจะคำนวณการก่อสร้างตั้งแต่ฐานรากขึ้นไปว่ามีมูลค่าเท่าใดกันแน่ โดยจะสอบสวนไปถึงบริษัทที่เป็นผู้จำหน่ายวัสดุก่อสร้างเหล่านี้ที่จะทำให้ทราบถึงส่วนต่างที่เกิดขึ้นจากสับเปลี่ยนวัสดุที่ใช้
