ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ ปัดออกหมายจับ “ชวน” และ ส.ส.อีก 15 ราย ที่ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหาบริจาคเงินเข้าพรรค
จากกรณีที่ นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ดีเอสไอมีแนวคิดจะเสนอเรื่องต่อศาลอาญา เพื่อขอออกหมายจับ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน พร้อม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 15 ราย ที่ไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีบริจาคเงินให้พรรคที่ดีเอสไอดำเนินการอยู่
เมื่อเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธการออกหมายจับ นายชวน และ ส.ส.ปชป.ที่เหลือ 14 คนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
เพราะที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ทำหนังสือเชิญให้นายชวน และ ส.ส.ท่านอื่นๆ ที่ยังไม่มาชี้แจงข้อกล่าวหาให้มาเข้าสู่ขั้นตอนของกระบวนยุติธรรม โดยทุกขั้นตอนมีอัยการร่วมทำงาน ซึ่งหากจะมีการออกหมายจับจริง ก็จะต้องเป็นการทำงานพิจารณาความคิดเห็นร่วมกันของพนักงานสอบสวนดีเอสไอ กับพนักงานอัยการเสียก่อน
“ผมขอยืนยันว่าไม่มีอะไรรุนแรง และจะไม่ทำอะไรเกินเลย และที่ผ่านมายังไม่เคยมีการพูดเรื่องออกหมายจับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยังไม่ยอมมาชี้แจงในการหารือกันของคณะพนักงานสอบสวนในคดีนี้แต่อย่างใด เพราะขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการออกหนังสือเชิญมาให้ชี้แจงข้อกล่าวหาในคดีบริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ซึ่งการพิจารณาออกหมายจับเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่แน่นอนจะไปพูดก่อนคงไม่ได้” พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าว
เมื่อถามว่า วันที่ 1 ส.ค.นี้ ก็จะเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะมีผลต่อการเรียก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยังไม่มาให้ปากคำคดีบริจาคเงินพรรคฯหรือไม่ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กล่าวว่า พนักงานสอบสวนก็ต้องเลื่อนเวลาออกไปจนกว่าจะปิดสมัยประชุมสภาเสียก่อน จึงจะมีหนังสือเชิญส.ส.ที่เหลือมาชี้แจงข้อกล่าวหาต่อไปอีกครั้ง ซึ่งก็จะทำให้เวลาในการพิจารณาดำเนินคดีต้องยืดเยื้อล่าช้าออกไปอีก
อย่างไรก็ตาม ตนก็หวังว่าในที่สุด นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และ ส.ส.ที่เหลือจะยอมร่วมมือมาชี้แจงข้อกล่าวหาในคดีนี้ ซึ่งคดีนี้มี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในข่ายต้องมาชี้แจงปากคำ 44 คน ซึ่งคนอื่นก็มากันหมดแล้ว เหลือแต่เพียงท่านชวน และ ส.ส.อีก 10 กว่าคนเท่านั้น แล้วทำไมท่านชวน ถึงจะไม่มา และการที่ท่านมาพบพนักงานสอบสวนนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านต้องมีความผิด เพราะสอบปากคำเสร็จพนักงานสอบสวนต้องทำสำนวนคดีความเห็นเสนอต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณามีความเห็นต่อไปอย่างไร ต่อจากนั้นจึงจะส่งต่อให้อัยการพิจารณาลงความเห็นว่าเป็นไปในแนวทางเดียวกับที่ดีเอสที่จะสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้อง
พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ตนถูก นายวัชระ เพชรทอง เรียกให้ไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนฯทุกสัปดาห์ ซึ่งนายวัชระ เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการคนที่หนึ่ง แต่ตนก็ต้องยอมๆ และอดทน โดยล่าสุดก็เรียกตนให้ไปชี้แจงเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่เนื่องจากตรงกับวันหยุด ล่าสุดจึงเลื่อนมาเป็นวันที่ 29 ก.ค.นี้
จากกรณีที่ นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ดีเอสไอมีแนวคิดจะเสนอเรื่องต่อศาลอาญา เพื่อขอออกหมายจับ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน พร้อม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 15 ราย ที่ไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีบริจาคเงินให้พรรคที่ดีเอสไอดำเนินการอยู่
เมื่อเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธการออกหมายจับ นายชวน และ ส.ส.ปชป.ที่เหลือ 14 คนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
เพราะที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ทำหนังสือเชิญให้นายชวน และ ส.ส.ท่านอื่นๆ ที่ยังไม่มาชี้แจงข้อกล่าวหาให้มาเข้าสู่ขั้นตอนของกระบวนยุติธรรม โดยทุกขั้นตอนมีอัยการร่วมทำงาน ซึ่งหากจะมีการออกหมายจับจริง ก็จะต้องเป็นการทำงานพิจารณาความคิดเห็นร่วมกันของพนักงานสอบสวนดีเอสไอ กับพนักงานอัยการเสียก่อน
“ผมขอยืนยันว่าไม่มีอะไรรุนแรง และจะไม่ทำอะไรเกินเลย และที่ผ่านมายังไม่เคยมีการพูดเรื่องออกหมายจับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยังไม่ยอมมาชี้แจงในการหารือกันของคณะพนักงานสอบสวนในคดีนี้แต่อย่างใด เพราะขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการออกหนังสือเชิญมาให้ชี้แจงข้อกล่าวหาในคดีบริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ซึ่งการพิจารณาออกหมายจับเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่แน่นอนจะไปพูดก่อนคงไม่ได้” พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าว
เมื่อถามว่า วันที่ 1 ส.ค.นี้ ก็จะเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะมีผลต่อการเรียก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยังไม่มาให้ปากคำคดีบริจาคเงินพรรคฯหรือไม่ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กล่าวว่า พนักงานสอบสวนก็ต้องเลื่อนเวลาออกไปจนกว่าจะปิดสมัยประชุมสภาเสียก่อน จึงจะมีหนังสือเชิญส.ส.ที่เหลือมาชี้แจงข้อกล่าวหาต่อไปอีกครั้ง ซึ่งก็จะทำให้เวลาในการพิจารณาดำเนินคดีต้องยืดเยื้อล่าช้าออกไปอีก
อย่างไรก็ตาม ตนก็หวังว่าในที่สุด นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และ ส.ส.ที่เหลือจะยอมร่วมมือมาชี้แจงข้อกล่าวหาในคดีนี้ ซึ่งคดีนี้มี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในข่ายต้องมาชี้แจงปากคำ 44 คน ซึ่งคนอื่นก็มากันหมดแล้ว เหลือแต่เพียงท่านชวน และ ส.ส.อีก 10 กว่าคนเท่านั้น แล้วทำไมท่านชวน ถึงจะไม่มา และการที่ท่านมาพบพนักงานสอบสวนนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านต้องมีความผิด เพราะสอบปากคำเสร็จพนักงานสอบสวนต้องทำสำนวนคดีความเห็นเสนอต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณามีความเห็นต่อไปอย่างไร ต่อจากนั้นจึงจะส่งต่อให้อัยการพิจารณาลงความเห็นว่าเป็นไปในแนวทางเดียวกับที่ดีเอสที่จะสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้อง
พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ตนถูก นายวัชระ เพชรทอง เรียกให้ไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนฯทุกสัปดาห์ ซึ่งนายวัชระ เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการคนที่หนึ่ง แต่ตนก็ต้องยอมๆ และอดทน โดยล่าสุดก็เรียกตนให้ไปชี้แจงเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่เนื่องจากตรงกับวันหยุด ล่าสุดจึงเลื่อนมาเป็นวันที่ 29 ก.ค.นี้