ศาลอุทธรณ์ให้ส่งตัวเฒ่าอังกฤษก่อคดีข่มขืน ไปรับโทษที่กัมพูชา

ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นให้ส่งตัว “เดวิด เฟลตเชอร์” จำเลยชาวอังกฤษ ก่อคดีข่มขืนสาวเขมรอายุไม่เกิน 15 ปี เป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปรับโทษที่ประเทศกัมพูชา

ที่ห้องพิจารณา 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ (10 ก.ค.) ศาลอาญานัดฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ คดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน อผ.6/2553 ที่อัยการสำนักต่างประเทศ ขอให้ส่งตัวนายเดวิด จอห์น เฟลตเชอร์ อายุ 67 ปี ชาวอังกฤษเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อไปรับโทษที่ประเทศกัมพูชา ตามคำร้องขอจากประเทศกัมพูชา ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สืบเนื่องจากนายเดวิดข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน15 ปี พรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารและแสวงหากำไรที่กรุงพนมเปญ แล้วหลบหนีมายัง กทม. แต่ถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวไว้ได้ และถูกขังตามอำนาจศาลมาโดยตลอด

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การกระทำความผิดของนายเดวิดตรงกับกฎหมายไทย ซึ่งเป็นคดีมีโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ปี และเป็นคดีที่ไม่ใช่ความผิดทางการเมือง การทหาร จึงมีคำสั่งให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้ โดยให้ขังไว้รอการส่งตัวต่อไป

ต่อมาจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ว่ากัมพูชาไม่ได้ปฏิบัติกระบวนการยุติธรรมในคดีที่ขอส่งตัวจำเลยตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งขัดต่อสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยและกัมพูชาข้อ 3 (6) จึงขอปฏิเสธการส่งตัว

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษากันแล้วเห็นว่า ในการพิจารณาคดีที่จำเลยถูกกล่าวหาในศาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งจำเลยอ้างว่ามีการพิจารณาลับหลังจำเลยนั้น ปรากฏว่าคดีดังกล่าวจำเลยได้แต่งตั้งทนายความสู้คดี ประกอบกับเมื่อศาลชั้นต้นของกัมพูชามีคำพิพากษาแล้ว ยังได้ให้โอกาสจำเลยยื่นอุทธรณ์ภายใน 15 วัน อีกทั้งในการดำเนินคดีนั้น ประเทศอังกฤษซึ่งจำเลยมีสัญชาติอยู่นั้น ก็ไม่ได้ปฏิเสธกระบวนการ ทั้งนี้หากกระบวนการยุติธรรมดังกล่าว ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนตามที่จำเลยอ้าง ประเทศอังกฤษก็ย่อมจะดูแลให้ความช่วยเหลือจำเลย จึงเห็นว่าไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะปฏิเสธส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนฯ ข้อ 3 (6) ที่ศาลชั้นต้นพิพากษานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นชอบด้วยพิพากษายืนให้ส่งตัวจำเลยไปรับโทษที่ประเทศกัมพูชา

ทั้งนี้ คำสั่งศาลอุทธรณ์ถือเป็นที่สิ้นสุด หากไม่มีการส่งตัวบุคคลที่ถูกร้องขอไปภายใน 90 วันนับแต่วันนี้ก็ให้ปล่อยตัวจำเลย