สลด! ไฟไหม้โรงพัก สภ.ไทรน้อย ผู้ต้องหาสำลักควันเสียชีวิต 4 ราย ญาติโวยตำรวจไม่ช่วย-ผบช.ภาค1 นายกเทศมนตรี และกต.ตร. นำเงินส่วนตัวเยียวยาผู้ต้องขังเบื้องต้น
เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 7 ก.ค. 56 ขณะที่ พ.ต.ท.ชำนาญ วงศ์ศรีเผือก พงส.สบ.3 สภ.ไทรน้อย ร.ต.ต.สมรักษ์ เย็นสยาย สิบเวร เสมียนประจำวันและพลขับ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้ยินเสียงคล้ายหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดดังขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร้องตะโกนไฟไหม้บริเวณชั้น 1 ด้านหลังสถานีซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ หลังจากนั้นได้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นไปที่บริเวณห้องเก็บของด้านหลังสถานี โดยเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วและลามไปยังห้องควบคุมผู้ต้องหา ขณะนั้นในห้องควบคุมมีผู้ต้องหารวม 4 คน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นายที่ปฏิบัติหน้าที่ต่างช่วยกันพยายามดับไฟโดยใช้อุปกรณ์ถังดับเพลิงเข้าดับไฟแต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เนื่องจากบริเวณชั้นล่างดังกล่าวเป็นห้องเก็บของกลางและห้องควบคุมผู้ต้องหา เปลวเพลิงและกลุ่มควันได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดจึงได้พากันวิ่งหนีออกมาพร้อมวิทยุแจ้ง พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ภักดีณรงค์ พ.ต.อ.ณัฐพล ศุกระศร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ศุภกร ผิวอ่อน ผกก. พ.ต.ท.นันทเศรษฐ์ สุขนพกิจ รอง ผกก.สส. ประสานไปยังนายสัมฤทธิ์ ด้วงโสน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลไทรน้อย นำรถน้ำจำนวน 7 คันและได้ขอรถน้ำช่วยเหลือเพิ่มเติมจากหน่วยงานใกล้เคียง มาทำการฉีดน้ำเพิ่มเติม ใช้เวลานานกว่า 2 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ค่าเสียหายอยู่ระหว่างตรวจสอบ
หลังจากที่เพลิงสงบ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบพบว่า ภายในห้องควบคุมผู้ต้องหามีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย ทราบชื่อคือนายเจิด สรงภู่ อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 2/6 หมู่ 4 ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาคดีครอบครองอาวุธปืน, นายวสันต์ ศรศิลป์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 6 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาคดีขับขี่รถยนต์ขณะเมาสุรา, นายวิสุทธิ์ คงยืน อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ 7 ต.ราษฎร์นิยม อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาคดีครอบครองยาบ้าจำนวน 44 เม็ด และนายจิรพงษ์ วงศ์อนันต์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116/19 หมู่ 7 ต.เจ้าเจ็ด อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาคดีมีสารเสพติดในร่างกาย ทั้ง 4 คนถูกไฟคลอกจนดำเป็นตอตะโก เสียชีวิตอยู่ภายในห้องขังสภาพสุดอนาถเพราะไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดน่าจะเสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจเนื่องจากสำลักควันไฟแต่ต้องรอเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน และนิติเวชมารวมทั้งแพทย์ทำการชันสูตรศพจากอย่างละเอียดเสียก่อน
เวลาต่อมาได้มีชาวบ้านนับร้อยคนที่เป็นญาติผู้เสียชีวิตและเพื่อนบ้านต่างพากันเดินทางมาที่โรงพัก เมื่อทราบว่าผู้ต้องขังทั้ง 4 ราย เสียชีวิตในห้องขังโดยไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ ต่างพากันร้องตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความเคียดแค้น บางรายกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่จงใจไม่ยอมไขกุญแจห้องขังทำให้ลูกหลานตนเองต้องตายอย่างน่าอนาถ พร้อมทั้งกรูกันขึ้นไปบนโรงพักเพื่อที่จะเข้าไปเอาศพออกมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยินยอมเนื่องจากต้องรอเจ้าหน้าที่วิทยาการและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบอย่างละเอียดเสียก่อน ยิ่งสร้างความไม่พอใจและโกรธแค้นให้กับญาติผู้ตาย จนเกิดการกระทบกระทั่งกันอยู่เป็นระยะ บางรายถึงกับชี้หน้าด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยคำหยาบคาย จนเหตุการณ์ทำท่าจะบานปลายเป็นเรื่องใหญ่
ขณะเดียวกัน ทางนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.นนทบุรี นายสุรพล วานิชเสนี รอง ผวจ. นายพินิจ เธียรวัช ปลัดจังหวัด พร้อมด้วย พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภาค 1 พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รอง ผบช. พต.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้รับรายงานจึงรีบรุดเดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เปิดทางอนุญาตให้ตัวแทนญาติคนตายเข้าไปดูศพได้ภายในห้องขังบนโรงพัก เมื่อทุกคนเห็นสภาพศพต่างพากันเป็นลมล้มพับ จนเพื่อนบ้านที่มาด้วยต้องช่วยกันประคองหายาดมมาให้ดมจนอาการดีขึ้น
โดย น.ส.จิตนา เกตุลักษณ์ อายุ 23 ปี บุตรสาวของนายเจิด สรงภู่ ผู้ต้องหาคดีครอบครองอาวุธปืน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนมาเยี่ยมบิดาจนถึงตี 2 จึงเดินทางกลับ ไม่นึกว่าบิดาจะมาเสียชีวิตในสภาพแบบนี้ทั้งที่ๆ โดนจับเพียงแค่คดีอาวุธปืน ขณะที่บิดาของนายวสันต์ ศรศิลป์ ผู้ต้องหาคดีขับขี่จักรยานยนต์ขณะเมาสุรา เปิดเผยว่า ลูกชายทำงานเป็นพนักงานอยู่บริษัท ปตท. อายุยังน้อย ถูกจับเพียงคดีเล็กๆ แต่ต้องเอาชีวิตมาทิ้งในห้องขังแบบชนิดที่เรียกว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีสติคิดสักนิด ไขกุญแจห้องขัง บุตรชายคงไม่ตาย
เวลาต่อมา นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.นนทบุรี พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภาค 1 พล.ต..ต.ปิยะ สอนตรกูล รอง ผบช. พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงได้เรียกญาติผู้เสียชีวิตเข้าร่วมหารือยังห้องประชุมบนโรงพัก โดยมี ร.ต.ต.สมรักษ์ เย็นสบาย ซึ่งทำหน้าที่สิบเวรหน้าห้องขัง และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเพราะถูกไฟลวกที่ข้อมือขวา มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตฟัง ซึ่ง ร.ต.ต.สมรักษ์อยู่ในอาการอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีฝนตกหนัก สักพักใหญ่ก็มีเสียงระเบิดขึ้นที่แผงสวิตช์ไฟข้างห้องขังด้านซ้าย ตนจึงรีบวิ่งไปเอาถังดับเพลิงมาฉีดสกัดแต่ไม่สามารถควบคุมได้เลยต้องหนีออกมา โดยมาทราบอีกทีว่ามีผู้ต้องขังถุกไฟคลอกเสียชีวิตหมดทั้ง 4 ราย ก็รู้สึกเสียใจในเรื่องนี้มาก เรื่องนี้คงต้องปล่อยให้ผู้บังคับบัญชาเป็นคนตัดสินใจ ตนเองพร้อมน้อมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ขณะที่ พล.ต.ท.นเรศกล่าวกับญาติผู้เสียชีวิตว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่อยากให้เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจงใจปล่อยให้ผู้ต้องหาตาย แต่เป็นอุบัติเหตุสุดวิสัย ตนเองต้องให้ความเป็นธรรมอย่างแน่นอนเพราะถือว่าผู้ต้องขังทั้งหมดเสียชีวิตในขณะอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรในคืนเกิดเหตุว่ามีความผิดในสถานใด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นายอยู่บนโรงพัก ประกอบด้วยสารวัตรเวร พลขับประจำรถ เจ้าหน้าที่ประจำวัน เจ้าหน้าที่ห้องวิทยุ และสิบเวรหน้าห้องขัง เบื้องต้นคงต้องหาทางเยียวยาผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายก่อน ส่วนศพได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกให้กับญาติพี่น้องในทุกๆ ด้าน ซึ่งบรรดาญาติผู้ตายยังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นคงต้องรอปรึกษากันอีกที ตอนนี้เพียงขอให้ได้ศพนำกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีก่อนเท่านั้น หลังจากแถลงข่าวรายละเอียดทั้งหมด เบื้องต้น พล.ต.ท.นเรศได้ให้การช่วยเหลือส่วนตัวเป็นเงินรายละ 50,000 บาท นายสัมฤทธิ์ ด้วงโสน นายกเทศมนตรีตำบลไทรน้อยได้รับปากมอบเงินค่าทำศพให้กับผุ้เสียชีวิตรายละ 10,000 บาท กต.ตร.จ.นนทบุรี ช่วยเหลือรายละ 10,000 บาท ยังมีการช่วยเหลือในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และสภากาชาดจังหวัดนนทบุรีอีกด้วย