ตร.รวบ 2 โจ๋มือวานฆ่า “เหน่งลีโอ” ดับคาร้านลีโอสนุกเกอร์คลับ ย่านจรัญฯ 65 สารภาพแค้นผู้ตายทวงเงินแล้วด่าทอบุพการี
วันนี้ (7 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. และ บก.น.7 แถลงผลการจับกุมนายวิษณุ หรือปุ้ย แซ่ตั้ง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 340 ซอยบางแค 4 แขวงและเขตบางแค กทม. และนายฉัตรชัย หรือชาย พัดประไพ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 237 ซอยวัดกัลยาณ์ แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กทม. ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายจิรวัชร หรือปุ้ย เอี่ยมอร่ามศักดิ์ หรือเรียกว่า “เหน่งลีโอ” อายุ 33 ปี เสียชีวิตหน้าร้านลีโอสนุกเกอร์คลับ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 65 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ พร้อมของกลางอาวุธปืน .38 ลูกโม่ จำนวน 1 กระบอก โดยจับกุมนายวิษณุ ได้ที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถ.อินทรพิทักษ์ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี และขยายผลจับกุมนายฉัตรชัย ได้ที่แฟลตเอื้ออาทรศรีสวัสดิ์ ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ก.ค. เวลาประมาณ 01.30 น. ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมนายป็อก และนายหรั่ง (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) อยู่ระหว่างหลบหนี ได้ร่วมกันก่อเหตุยิงนายจิรวัชร หรือเหน่ง ที่หน้าร้านลีโอสนุกเกอร์คลับ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 65 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด โดยก่อนเกิดเหตุ 3 วัน นายหรั่ง มาหานายวิษณุ หรือปุ้ย เพื่อพูดคุยกันโดยนายหรั่ง รับจะจัดการกับผู้ตายให้ จนเวลาประมาณ 23.00 น. ของคืนก่อนเกิดเหตุ นายหรั่งและนายฉัตรชัย ได้ขับรถไปวนดูผู้ตายภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 65 แต่ไม่พบผู้ตายจึงเดินทางกลับพร้อมโทร.รายงานนายวิษณุ กระทั่งก่อนเกิดเหตุ นายป็อก ทำหน้าที่ชี้เป้าได้โทรศัพท์มาแจ้งนายวิษณุ ว่า พบตัวผู้ตายนั่งอยู่หน้าร้านโต๊ะสนุกเกอร์จุดเกิดเหตุ จากนั้นนายป็อก ได้ขับรถออกไปรับนายวิษณุ กับนายหรั่ง เมื่อมาถึงภายในซอยนายวิษณุ ได้สั่งให้นายป็อก หยุดรถห่างจากผู้ตายประมาณ 10 เมตร แล้วนายหรั่ง ลงจากรถพร้อมสั่งให้นายวิษณุ ขับรถออกไปได้เลยไม่ต้องรอ จากนั้นนายหรั่ง ได้เดินเข้าด้านหลังผู้ตาย และใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ท้ายทอยผู้ตาย 1 นัด จากนั้นเข้าไปดึงกระเป๋าสะพายของผู้ตายไป และยิงอีก 2 นัดเพื่อเปิดทางหลบหนี
หลังจากนั้น นายหรั่ง ได้วิ่งไปขึ้นรถแท็กซี่ซึ่งจอดอยู่หน้าปากซอยหลบหนี เพื่อไปเก็บเสื้อผ้าที่บ้านของนายฉัตรชัย และได้ฝากปืนไว้กับนายฉัตรชัย ให้เอาไปคืนนายวิษณุ ในวันรุ่งขึ้น เมื่อทำงานสำเร็จนายหรั่ง ได้โทรศัพท์มาแจ้งต่อ นายวิษณุ ที่รอฟังผลอยู่ที่ซอยโรงพยาบาลเจ้าพระยา 2 ถนนบรมราชชนนี เมื่อทราบข่าวแล้วนายวิษณุ จึงได้แยกย้ายกับนายป็อก โดยนายวิษณุ ไปขึ้นรถแท็กซี่กลับไปนอนพักที่บ้านเพื่อนสาวย่านบางแค ส่วนนายป็อก ขับรถแยกย้ายไปคนละทาง ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.แบ่งกำลังกันสืบหาข่าว จนกระทั่งทราบว่านายวิษณุ และพวกเป็นคนก่อเหตุ จึงทำการติดตามจับกุมได้บริเวณดังกล่าว
จากการสอบสวน นายวิษณุ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองกับผู้ตายมีปากเสียงกัน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยตนเองได้ยืมเงินผู้ตายมา 20,000 บาท ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แต่ยังใช้หนี้ไม่หมด ซึ่งผู้ตายก็โทรศัพท์ทวงถามเรื่อยมา จนกระทั่งล่าสุด ผู้ตายได้ทวงหนี้ตนอีกแต่กลับมาต่อว่าด่าทอบุพการีของตน ทำให้ตนเกิดความแค้นจึงบอกให้นายหรั่ง ซึ่งเป็นเพื่อนจัดการกับผู้ตาย โดยตนเองมีหน้าที่จัดหาอาวุธปืนให้นายหรั่ง ส่วนนายฉัตรชัย หรือชาย นั้นมีหน้าที่จัดหารถยนต์ และชี้เป้า สำหรับนายป็อก นั้นเป็นคนขับรถยนต์ หลังจากก่อเหตุสำเร็จจึงได้แยกย้ายกันหลบหนี จนกระทั่งถูกจับกุมได้ในที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน สำหรับนายหรั่ง และนายป็อกที่ยังหลบหนีนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. ได้เร่งติดตามตัว