สืบฯ บก.น.9 รวบ “เตี้ย ชาญค้า” มือยิงสาวถูกลูกหลงเสียชีวิตคาบ้าน เหตุเขม่นในผับย่านพุทธมณฑลสาย 1 พบคดีอื้อ
วันนี้ (25 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.9 และฝ่ายสืบสวน สน.ภาษีเจริญ นำกำลังจับกุม นายสุพจน์ หรือเตี้ย ชาญค้า อายุ 28 ปี อยู่ที่ 45 ซ.จรัญสนิทวงศ์ 7/1 แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 285/2556 ลง 7 พฤษภาคม 2556 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน พร้อมอาวุธปืนชนิดรีวอลเวอร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 6 นัด จับได้ที่หน้าร้านซ่อมรถไม่มีชื่อ เลขที่ 119/4 ถ.เลี่ยงเมือง ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ
พล.ต.ต.ปริญญากล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2556 เวลา 05.00 น.ได้เกิดเหตุยิงทำร้ายกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในพื้นที่ สน.ภาษีเจริญ ขณะที่กลุ่มผู้ตายกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงย่านถนนพุทธมณฑลสาย 1 แล้วซื้อเบียร์มาดื่มกินกันต่อที่บ้านเช่าในซอยเพชรเกษม 28 จากนั้นมีคนร้าย 2 คนขับขี่จักรยานยนต์ยามาฮ่า นูโวรุ่นเก่า สีบรอนซ์-เทา คาดสีเขียว ไม่ทราบทะเบียน สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ กางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกแล้วใส่หมวกโม่งด้านในอีกชั้น ได้ใช้อาวุธปืน 2 กระบอกแบบลูกโม่ยิงใส่กลุ่มผู้ตาย เป็นเหตุให้ น.ส.ชนานุช สมเสร็จ ถึงแก่ความตาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ นายอธิต คำหวาน อายุ 23 ปี และน.ส.จุติรัตน์ จุติโรจน์ปกรณ์ อายุ 23 ปี โดยมีนายกิติศักดิ์ หรือเต้ ดอกเงิน ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ได้หลบหนีอยู่ ต่อมาฝ่ายสืบสวนติดตามจนทราบว่านายเตี้ยหลบหนีไปทำงานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนไปจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า วันเกิดเหตุได้เกิดการเขม่นกันภายในผับกับกลุ่มคนตายที่สถานบันเทิงย่านถนนพุทธมณฑลสาย 1 จากนั้นจึงชักชวนนายเต้ให้ช่วยขับรถจักรยานยนต์ให้ ส่วนตนใช้อาวุธปืนกะไปยิงแก้แค้นคนในกลุ่มซึ่งเป็นผู้ชาย ไม่ได้ตั้งใจให้โดนผู้หญิงแต่กลับถูกลูกหลงเสียชีวิต ก่อนรีบแยกย้ายหลบหนีไปทำงานที่อู่รถคนรู้จัก และมาถูกจับกุมตัวได้ โดยวันเกิดเหตุตนได้ยิงออกไปจำนวน 6 นัด และปืนนั้นซื้อต่อมาจากเพื่อนในราคา 20,000 บาท ส่วนเรื่องปล้นรถรับสารภาพว่าตนมีหน้าที่ขับร่วมกับพวกอีก 3 คนที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ โดยมีหน้าที่ขับไปจอดตามข้างทางได้ค่าจ้างคันละ 3-4 หมื่นบาท อ้างว่าที่ก่อเหตุชิงทรัพย์และปล้นรถนั้นจะนำเงินไปรักษาเพื่อนที่เคยถูกยิง
นอกจากนี้ ตรวจสอบประวัติพบว่าเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยมีเพื่อนร่วมขบวนการที่ถูกจับก่อนหน้านี้แล้ว 3 ราย คือ นายจรินทร เนียมคง, นายประสงค์ ใจอารีย์ และนายประสพ ใจอารีย์ มีหมายจับจำนวน 6 คดี ดังนี้ (1. หมายศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 495/2555 ข้อหาปล้นทรัพย์รถยนต์ ท้องที่ สน.ตลิ่งชัน ลง 29 ส.ค. 55 (2. หมายศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 768/2555 ข้อหาชิงทรัพย์รถยนต์ ท้องที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ลง 31 ส.ค. 55 (3. หมายศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 770/55 ข้อหาชิงทรัพย์รถยนต์ ท้องที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ลง 31 ส.ค. 55 (4. หมายศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 774/55 ข้อหาปล้นทรัพย์รถยนต์ ท้องที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ลง 31 ส.ค. 55 (5. หมายศาลอาญาธนบุรี ที่ 527/55 ข้อหาปล้นทรัพย์รถยนต์ ท้องที่ สภ.ท่าข้าม ลง 30 ส.ค.55 และ (6. ก่อคดีปล้นทรัพย์รถยนต์ ในพื้นที่ สน.บางเสาธง ขณะนี้อยู่ระหว่างทำการตรวจสอบข้อมูลหลักฐาน ก่อนนำตัวส่ง สน.ภาษีเจริญดำเนินคดีต่อไป