ตร.ชุดสืบสวน สน.บางพลัดให้น้ำหนักปมขัดแย้งธุรกิจ คนร้ายยิงเผาขนเจ้าของร้านอาหารเพลินบาร์ ชี้ก่อนเสียชีวิตประกาศตัวดูแลวิน จยย.รับจ้างแทนประธานคนเก่าที่มีปัญหากับกลุ่ม จยย.รับจ้างในวินที่รวมตัวกันกว่า 400 คัน
วันนี้ (3 ก.ค.) พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ สุทธิพันธุ์ ผกก.สน.บางพลัด เปิดเผยความคืบหน้ากรณีได้รับแจ้งเหตุนายจิรวัชร หรือเหน่งลีโอ เอี่ยมอร่ามศักดิ์ อายุ 33 ปี เจ้าของร้านอาหารเพลินบาร์ ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต บริเวณ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 65 แยก 4 หน้าร้านลีโอสนุ๊กเกอร์คลับ เลขที่ 737/140 แขวงบางบำรุ เขตบางพลัด กทม. สวมเสื้อยืดสีขาว ใส่เสื้อกั๊กยีนสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ สภาพนอนหงายจมกองเลือด พบบาดแผลถูกกระสุนปืนขนาด.38 ยิงเข้าที่ท้ายทอยด้านซ้ายทะลุขวา 1 นัด ตรวจสอบบริเวณร้านอาหารเพลินบาร์ พบรอยกระสุนทะลุกระจก 1 นัด และขอบประตูอลูมิเนียม 1 นัด อีกทั้งยังพบหมวกไหมพรมสีครีมมีรอยกระสุน 1 นัดตกอยู่ เหตุเกิดเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลต่าง ทั้งกล้องวงจรปิด พยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับกุมคนร้าย ส่วนประเด็นสังหารนั้นไม่ได้ตัดประเด็นใดๆ ออกทั้งสิ้นเพราะทุกประเด็นนั้นมีความเป็นไปได้เสมอ แต่จะเน้นน้ำหนักไปที่ขัดแย้งเรื่องธุรกิจ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตายเป็นอย่างดี
ทางด้านพ.ต.ท.ศรัณย์พงศ์ เปลี่ยนเพ็ง รอง ผกก.สส.สน.บางพลัด กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้ให้ทางฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่หากล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบมาตรวจสอบและติดตามพยานที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งมีอยู่จำนวนมากโดยทั้งหมดเป็นลูกค้าที่มานั่งดื่มกินอยู่ที่ร้านเพลินบาร์ แต่พยานแต่ละคนไม่มีใครกล้าปริปากพูดเนื่องจากนายจิรวัชรเป็นผู้อิทธิพลในพื้นที่ จึงทำให้พยานหวาดกลัว โดยเชื่อว่าคนที่มาก่อเหตุนั้นยิงในลักษณะเผาขนน่าจะเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดา
จากการสอบสวนพยานรายหนึ่งได้ให้การว่า ผู้ตายนั้นได้เซ้งกิจการโต๊ะสนุกเกอร์ และพื้นที่โดยรอบมาประมาณ 4 เดือน แล้ว จากนั้นได้แบ่งพื้นที่โดยรอบให้เช่ารวมทั้งร้านเพลินบาร์ด้วย และผู้ตายก็มักจะเดินทางมาที่ร้านเพลินบาร์อยู่เป็นประจำเพื่อไปดูกิจการโต๊ะสนุกเกอร์ พร้อมทั้งจะพกเงินติดตัวเป็นเงินจำนวนหลักแสนบาทอยู่เสมอ จากนั้นก็จะมานั่งพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนอยู่เสมอ ก่อนเกิดเหตุนั้นผู้ตายกำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อน จากนั้นได้มีคนร้ายเดินเข้ามาทางด้านหลัง ซึ่งเป็นลานจอดรถที่มืดพร้อมกับตะโกนว่า “ใครไม่เกี่ยว อย่ายุ่ง” ก่อนจะชักปืนมายิงดังกล่าว พร้อมหยิบฉวยกระเป๋าคาดเอวของผู้ตายซึ่งมีเงินอยู่จำนวนหลักแสนบาท และโทรศัพท์มือถือติดมือไปด้วยก่อนหลบหนีไป
นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติของผู้ตายพบว่า เป็นนักพนันตัวยง และปล่อยเงินกู้ ยังมีธุรกิจสีเทาอีกหลายอย่าง รวมทั้งการรับจำนำรถ โดยทุกวันจะพกเงินครั้งละไม่ต่ำกว่า 1 แสน บาท โดยก่อนเหตุนั้น จยย.รับจ้างปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 65 และใกล้เคียง จำนวนไม่ต่ำกว่า 400 คัน ไม่พอใจกับประธาน จยย.รับจ้างคนปัจจุบัน เมื่อผู้ตายทราบเรื่องที่พวก จยย.รับจ้าง ไม่พอใจ ก็ได้ไปพูดคุยผ่านคนกลางว่าผู้ตายเองสนใจที่จะดูแล จยย.รับจ้างพวกนี้แทนเอง กระทั่งมาเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวนหาพยานวัตถุและสอบพยานแวดล้อมต่างๆ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว