ทนาย “สุวัตร” ตอกหน้าชุดสอบสวนคดีฆ่า “เอกยุทธ” ที่เชื่อคำให้การของสองผู้ต้องหา และเร่งปิดคดี โดยไม่ตรงผลการชันสูตรของทีมแพทย์ ย้ำเป็นฝีมือของพวกมีสี ด้านโฆษก ตร.ชิงออกตัวแจง ผลการชันสูตรคดีนี้ ไม่มีผลการชันสูตรพลิกศพ โดยจะนำไปประกอบสำนวนคดี แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้และไม่ได้ชี้ว่าใครเป็นผู้ฆ่า
วันนี้ (2 ก.ค.) นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ กล่าวภายหลังทราบรายงานเบื้องต้นว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เชิญนายตำรวจที่เกี่ยวข้องในการสอบสวนคดีฆาตกรรมนายเอกยุทธ มาให้ข้อมูล โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการตรวจศพนายเอกยุทธ ที่แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่าถูกฆาตกรรมด้วย “ท่าพิเศษ” นั้น (อ่าน : หมอนิติเวชเผยผลตรวจศพ “เอกยุทธ” พบ 8 แผล ชี้พิรุธปมสังหาร “ท่าพิเศษ” ยันไม่ได้ถูกฆ่ารัดคอ ) ยืนยันแต่ต้นแล้วว่า ลำพังตัวสองผู้ต้องหา คือ นายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือ นายบอล และ นายสุทธิพงศ์ พิมพิสาร หรือ นายเบิ้ม ไม่สามารถฆ่านายเอกยุทธได้แน่ ยิ่งมีการระบุว่าเป็นท่าพิเศษ ดังนั้นก็ต้องเชื่อคำพูดจากแพทย์ที่ผ่าศพ และคิดว่าคนที่มีความรู้ความสามารถในการฆ่าคนด้วยท่าพิเศษ ต้องเป็นตำรวจหรือไม่ก็ทหาร
นายสุวัตร กล่าวอีกว่า ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีการเปิดเผยผลการตรวจศพนายเอกยุทธออกมาให้ทราบกัน ทำให้รู้ว่าคำให้การของสองผู้ต้องหาไม่ตรงกับที่แพทย์ตรวจศพเลย ไม่ว่าจะเป็นการที่กระทืบนายเอกยุทธจนตายก่อนที่จะใช้เชือกรัด เพราะผลตรวจจากแพทย์ก็ระบุแล้วว่าถูกกระทำด้วยการบีบรัดที่ลำคอจากด้านหลัง อีกทั้งหากนายเบิ้มเป็นคนฆ่าจริง ร่องรอยบาดแผลการต่อสู้ก็ไม่มี เพราะหากจะรัดคอนายเอกยุทธด้วยท่าพิเศษ ต้องมีการดิ้นรนขัดขืนแน่นอนต้องรอว่าทาง กสม.จะดำเนินการอย่างไรต่อไปและจะติดตามดูเช่นกัน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น.ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสอบสวน พร้อมด้วยแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ และตำรวจชุดทำคดีการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ เข้าให้ข้อมูลต่อที่ประชุมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ ในหลายประเด็นมีความขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหา โดย พล.ต.ต.อนุชัย ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้ โดยยืนยันว่า การไปให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ ในส่วนของผลการชันสูตรพลิกศพ เป็นไปตามผลที่สถาบันนิติเวชวิทยา ได้ให้ข้อมูลไปก่อนหน้านี้ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงแต่อย่างใด โดยเฉพาะสาเหตุการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ ทั้งนี้ ผลการชันสูตรระบุเพียงแค่สาเหตุแห่งการตาย ไม่ได้ชี้ว่า ใครเป็นผู้ทำให้นายเอกยุทธเสียชีวิต ซึ่งผลการชันสูตรศพจะถูกนำไปประกอบสำนวนคดี และไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี ส่วนการที่ผู้ต้องหา จะให้การอย่างไรก็ถือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าสาเหตุแห่งการเสียชีวิตเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งคดีนี้เป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมทุกอย่าง