ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ เข้ายื่นหนังสือให้กองปราบฯ สอบสวน “หลวงปู่เณรคำ” 13 ประเด็น ลั่นหากพบผิดจริงจะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษฐานฉ้อโกงประชาชน!
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ ทางเฟซบุ๊ก เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ มีการกระทำที่ขัดต่อพระธรรมวินัย และขัดต่อกฎหมาย ในหลายประเด็น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อพระพุทธศาสนา โดยทำหนังสือร้องเรียน เอกสารและภาพถ่ายที่เกี่ยวข้อง มอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
นายสงกรานต์กล่าวว่า หลังจากหลวงปู่เณรคำ หรือพระวีรพล สุขผล ตกเป็นข่าวทางสื่อมวลชนว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมซึ่งขัดต่อพระธรรมวินัย นอกจากนี้ยังมีผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ตนจึงอยากให้ทางตำรวจ บก.ป.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ รวม 13 ประเด็น ประกอบด้วย 1. การบรรพชาเป็นพระภิกษุนั้น ถูกต้องตามพระธรรมวินัยหรือไม่ 2. กรณีที่ปรากฏภาพชายคล้ายพระภิกษุ ลักษณะนอนหลับตา ยกแขนขวา และมีศีรษะของผู้หญิงเกยอยู่ข้างๆ นั้น เป็นภาพผู้ใด มีการตัดต่อภาพหรือไม่ 3. สถานะทางการเงินของบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องของทรัพย์สินก่อนบรรพชากับทรัพย์สินในปัจจุบัน 4. การรับบริจาคทรัพย์สินต่างๆ จากพุทธศาสนิกชน มีจำนวนเท่าใด มีผู้จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายหรือไม่ รวมทั้งมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปทั้งภายในและภายนอกประเทศหรือไม่
นายสงกรานต์กล่าวต่อว่า 5. สถานที่ตั้งวัดป่าขันติธรรม ที่ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ มีเนื้อที่เท่าใด และใครเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ 6. การจัดสร้างองค์พระแก้วมรกตจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับอนุญาตให้จัดทำถูกต้องหรือไม่ มีการประเมินราคาก่อสร้างหรือไม่ เนื่องจากมีการเปิดรับบริจาค โดยไม่ได้กำหนดยอดเงินและวันเวลาการสร้างให้เสร็จสิ้น 7. รถนำขบวนที่นำมาใช้เป็นรถตำรวจหรือไม่ 8. ขอให้ตรวจสอบบุคคลและนิติบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินต่างๆ ขอวัดป่าขันติธรรม 9. ขอให้ตรวจสอบบัญชีธนาคารทุกแห่ง ที่มีเงินหมุนเวียนนั้นมีผู้ใดเกี่ยวข้อง และมีการยักย้ายถ่ายเทไปยังบุคคลที่ 3 หรือไม่
นายสงกรานต์กล่าวอีกว่า 10. กรณีการอวดอุตริว่ามีอิทธิฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศได้ ระลึกชาติได้ รวมทั้งมีการคุยกับเทพยดา มีการกระทำต่างๆ ดังกล่าวหรือไม่ 11. ขอให้สืบสวนสอบสวนหญิงสาวที่ปรากฏในภาพว่าเกี่ยวพัน หรือมีความสัมพันธ์ใดๆ กับภาพชายคล้ายพระภิกษุนอนอยู่ 12. ขอให้ตรวจสอบบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นลูกศิษย์และได้ออกมาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่สมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย จ.สมุทรปราการ นั้นเป็นกรรมการบริษัท ขันติธรรมก้าวหน้า จำกัด หรือไม่ และ 13. ขอให้ตรวจสอบว่าพระภิกษุกับกรรมการบริษัท ขันติธรรมฯ และบริวาร เกี่ยวพันกันในเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ หรือไม่
“หากทางตำรวจกองปราบปรามสืบสวนสอบสวนในประเด็นต่างๆ แล้วพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิด ผมก็จะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน นอกจากนี้ก็จะดำเนินการในความผิดตามกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย” ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทางเฟซบุ๊กระบุ
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้และมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.ได้สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงต่างๆ ว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดหรือไม่ โดยพร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และแจ้งผลการสืบสวนสอบสวนให้ทราบอีกครั้ง